อิเหนาทูลลาท้าวหมันหยา
|
|
|
๏ ครั้นถึงซึ่งลงจากม้าต้น
|
ขึ้นบนปราสาททองผ่องใส
|
บังคมสองประหมันทันใด*
|
แล้วทูลไปให้แจ้งกิจจา
|
บัดนี้สมเด็จพระบิดร
|
มีศุภอักษรให้หา
|
พระชนนีเจ็บครรภ์หลายวันมา
|
หลานรักจักลาไปธานี
|
ถ้าไปไม่ทันพระบรรหาร
|
เนิ่นนานก็จะเคืองบทศรี
|
แม้องค์พระชนกชนนี
|
มีความสวัสดีจะกลับมา
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระตูผู้ผ่านหมันหยา
|
ทั้งประไหมสุหรีศรีโสภา
|
ฟังพระหลานลาก็อาลัย
|
คิดจะใคร่ทานทัดตรัสห้าม
|
ก็เกรงความนินทาไม่ว่าได้
|
สององค์จึ่งอำนวยอวยชัย*
|
เจ้าจงไปเป็นสุขทุกเวลา
|
น้านี้อยู่หลังทั้งสอง
|
จะทุกข์ทนหม่นหมองละห้อยหา
|
เช้าเย็นเคยเห็นพระนัดดา
|
ทีนี้น้าจะเปลี่ยวเปล่าเศร้าใจ
ฯ*
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ จึ่งมีพจนาบัญชาสั่ง*
|
ดะหมังเสนาอัชฌาสัย
|
จงจัดของขวัญทั้งนั้นไซร้
|
ตามในสุริย์วงศ์เทวัญ
|
ทั้งพี่เลี้ยงนางนมสมศักดิ์
|
อุดมด้วยนรลักษณ์เลือกสรร
|
ชายหญิงสิ่งละร้อยครบครัน
|
ฝากไปทำขวัญพระนัดดา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ดะหมังรับสั่งใส่เกศา
|
มาจัดของขวัญดังบัญชา
|
แล้วมอบให้เสนากุเรปัน
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ประไหมสุหรีเฉิดฉัน
|
พิศพักตร์พระนัดดาลาวัณย์
|
เห็นโศกศัลย์สร้อยเศร้าก็เข้าใจ
|
จึ่งตรัสเรียกราชบุตรี*
|
เข้ามานั่งถึงนี่ให้ใกล้
|
อิเหนาเขาจะลาคลาไคล
|
เจ้าจงบังคมไหว้พี่ยา
ฯ*
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
โฉมยงองค์ระเด่นจินตะหรา
|
ได้ฟังชนนีตรัสมา
|
ให้ขวยเขินวิญญาณ์อารมณ์
|
ต่อบิตุเรศเตือนจึ่งเคลื่อนคลาย*
|
ระวังชายทรงสะพักชักห่ม
|
ครั้นถึงหน้าที่นั่งก็บังคม
|
กราบก้มพักตราไม่พาที
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นมนตรีเรืองศรี
|
คำนับรับไหว้นางเทวี
|
ภูมีดูนางไม่วางตา
|
ความรักหนักอุราด้วยอาลัย
|
จะจำไกลพุ่มพวงดวงยิหวา
|
องค์อ่อนถอนฤทัยไปมา
|
เหมือนจะบอกกัลยาให้รู้ที
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ฝ่ายฝูงสุรางค์นางสาวศรี
|
ต่างดูระเด่นมนตรี
|
แล้วพาทีซุบซิบสะกิดกัน
|
พระจริตเห็นผิดกิริยา
|
พักตราเศร้าสร้อยโศกศัลย์
|
น่าจะทุกข์ทรมานรำคาญครัน
|
สงสารทรงธรรม์เป็นพ้นไป*
|
เมื่อกี้ดูเหมือนจะเยื้อนสั่ง
|
ใครใครเห็นมั่งหรือหาไม่
|
ชลเนตรคลอเนตรแล้วถอนใจ
|
เห็นอาลัยในองค์พระธิดา
|
บ้างว่าน่ารักพระโฉมตรู
|
จะใคร่ให้เสด็จอยู่หมันหยา
|
ถ้าได้กับพระบุตรีศรีโสภา
|
ดังจินดาประดับรับเรือนทอง
|
ลางนางบ้างว่าข้าชอบใจ
|
ทั้งในธรณีไม่มีสอง*
|
ต่างคิดพิสมัยใจปอง
|
หม่นหมองไปทุกหน้านางกำนัล
ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระสุริย์วงศ์เทวากระยาหงัน*
|
อาลัยมิใคร่จะจรจรัล
|
จึ่งทูลสองประหมันทันที
|
แต่ตัวนี้หากจะจากไป
|
จำใจไกลเบื้องบทศรี
|
แม้นมิกังวลด้วยชนนี
|
หลานนี้ก็ยังไม่จากจร
|
ทูลพลางทางถวายบังคมลา
|
แล้วแลดูพระธิดาดวงสมร
|
ทำทีเหมือนจะสั่งบังอร
|
ภูธรถอนใจอาลัยลา
|
มาทรงพาชีฉับพลัน
|
หวั่นหวั่นถวิลถึงจินตะหรา
|
จึ่งขับมโนมัยไคลคลา
|
ตรงมาที่อยู่ภูวไนย
ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ เชิด
|
๏ ครั้นถึงลงจากม้าที่นั่ง
|
ขึ้นยังตำหนักที่อาศัย
|
จึ่งสั่งพี่เลี้ยงผู้ร่วมใจ
|
จงไปจัดพหลมนตรี
|
แต่ในย่ำรุ่งให้เสร็จสรรพ
|
พรุ่งนี้จะกลับไปกรุงศรี
|
สั่งพลางย่างเยื้องจรลี
|
เข้าไปในที่ไสยา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
๏ พระบรรทมรำพึงถึงความรัก
|
ไม่ประจักษ์แจ้งจิตขนิษฐา
|
จะจำใจกลับไปพารา
|
อนิจจาจะทำประการใด
|
อันความทุกข์สุดทุกข์แสนทวี
|
เจ้าจะเห็นอกพี่บ้างหรือไม่
|
คิดจะใคร่แจ้งความแก่ทรามวัย
|
จึ่งสั่งให้หาดอกลำเจียกมา
ฯ*
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
วิเยนกิดาหยันหรรษา
|
รับสั่งแล้วบังคมลา
|
ออกมายังสวนมาลี
|
เก็บได้ดอกปะหนันมิทันนาน
|
ใส่พานเข้าไปในที่
|
ประนมก้มเกล้าดุษฎี
|
แล้วถวายมาลีภูวไนย
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระสุริย์วงศ์เทวาอัชฌาสัย
|
จึ่งหยิบมาลามาทันใด
|
ภูวไนยนิ่งนึกตรึกตรอง
|
เอานขาจารึกกลีบปะหนัน
|
ผูกพันเพลงยาวเคล่าคล่อง
|
แจ้งความตามซึ่งคะนึงน้อง
|
เป็นทำนองครวญคร่ำรำพัน
|
แล้วเอาซ่าโบะห่อดอกไม้
|
ส่งให้วิเยนกิดาหยัน
|
ธำมรงค์สองวงนอกนั้น
|
ให้พี่เลี้ยงสาวสวรรค์กัลยา
|
จงรับแหวนไว้พลางพลาง
|
เป็นค่าจ้างวานถวายบุหงา
|
อันซ่าโบะของเราเอามา
|
ขอเปลี่ยนผ้าสไบพระบุตรี
ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
วิเยนรับสั่งใส่เกศี
|
ถวายบังคมอัญชลี
|
ออกจากที่ไสยาแล้วคลาไคล
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
๏ มาถึงทิมริมโรงขอเฝ้า
|
ก็แวะเข้านั่งหยุดอาศัย
|
พอเห็นนางค่อมมาแต่ไกล
|
เดินเคียงเข้าใกล้แล้พาที*
|
จะเข้าไปในวังข้าสั่งด้วย
|
เอ็นดูช่วยบอกพี่เลี้ยงสองศรี
|
บาหยันซ่าเหง็ดชนนี
|
ว่าลูกนี้จะลาไปเวียงชัย
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
นางค่อมงวยงงไม่สงสัย
|
รับคำรีบลาคลาไคล
|
เข้าในห้องฉนวนด่วนมา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ ฉุยฉาย
|
๏ จึ่งบอกสองพี่เลี้ยงนารี
|
บัดนี้เจ้าบ่าวน้อยมาคอยหา
|
ให้บอกสองท่านผู้มารดา
|
มีธุระจะลาไปธานี
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
พระพี่เลี้ยงจึงว่าแก่ทาสี
|
หลากใจใครหนอช่างพาที
|
ล้อเล่นเช่นนี้น่าน้อยใจ
|
ร้ายดีจะไปดูให้รู้จัก
|
ลูกรักของข้ามาแต่ไหน
|
จึงพาดุหวาค่อมคลาไคล
|
ออกไปยังนอกทวารา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง
|
๏ บัดนั้น
|
วิเยนเห็นสองนางก็มาหา
|
นั่งไหว้แล้วแถลงแจ้งกิจจา
|
โดยดังบัญชาพระองค์ทรงธรรม์
|
แหวนนี้ประทานมารดร
|
จงช่วยธุระร้อนผ่อนผัน
|
ถึงใจให้พลางเป็นรางวัล
|
วานถวายดอกปะหนันนงเยาว์
|
อันซ่าโบะรอยทรงจงพระทัย
|
จะขอเปลี่ยนสไบโฉมเฉลา
|
แจ้งความตามสั่งสิ้นสำเนา
|
แล้วเอาธำมรงค์ส่งให้นาง
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
พี่เลี้ยงทั้งสองไม่หมองหมาง
|
ยิ้มอยู่ในหน้าแล้วว่าพลาง
|
ชิช่างฉลาดหลอกให้ออกมา
|
จึ่งรับเอาแหวนทั้งสองวง
|
กับผ้าทรงที่ห่อบุหงา
|
จะถวายให้ตามพระบัญชา*
|
ว่าแล้วก็พากันกลับไป
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
๏ ครั้นถึงจึ่งเข้าไปในห้อง*
|
ทั้งสองพิศวงสงสัย
|
จึ่งคลี่ห่อปะหนันออกทันใด*
|
เห็นอักษรเขียนใส่กลีบมาลา
|
ถ้อยคำร่ำว่าโอดครวญ
|
น้ำนวลน่ารักเป็นหนักหนา
|
แต่เฝ้าอ่านสารซ้ำไปมา
|
สรวลสันต์หรรษาพาที
ฯ
|
ฯ ๔ คำ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นจินตะหรามารศรี
|
ได้ยินเสียงสรวลระริกซิกซี้
|
จึ่งจรลีมาดูด้วยพลัน
|
เห็นสองพี่เลี้ยงกัลยา
|
พิศดูบุหงาแล้วสรวลสันต์
|
เมื่อกี้พี่ว่าอะไรกัน*
|
บุหงาปะหนันนั้นของใคร
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ทั้งสองกัลยาอัชฌาสัย
|
ดูตากันยิ้มพริ้มไป*
|
แล้วทูลอรไทพระธิดา
|
ข้าไปสตาหมันวันนี้*
|
เคราะห์ดีได้บุหงาในห่อผ้า*
|
นึกเดาเจ้าของลองปัญญา
|
ไม่รู้ว่าจะเป็นของใคร
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
จินตะหราพาซื่อไม่สงสัย
|
หยิบบุหงามาดูทันใด
|
อรไทเห็นสารก็อ่านพลัน
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ ในลักษณ์อักษรเสน่หา
|
ของพี่ยาจารึกกลีบปะหนัน
|
มาแจ้งความทรามวัยวิไลวรรณ
|
ด้วยผูกพันพิศวาสไม่คลาดคลาย
|
แต่ทุกข์ตรอมจนผอมผิดร่าง
|
เจ้าไม่เห็นบ้างหรือโฉมฉาย
|
ถึงจะม้วยชีวันอันตราย
|
ก็ไม่หมายว่าจะคืนพารา
|
นี่เนื้อชะรอยกรรมได้ทำไว้
|
จะจำไกลพุ่มพวงดวงยิหวา
|
มิรู้ที่จะแข็งขัดพระบัญชา
|
จะขอลาโฉมยงอยู่จงดี
|
ซ่าโบะจะขอเปลี่ยนสไบนาง
|
ไปชมพลางต่างพักตร์ยาหยี
|
กับทั้งชานสลาจงปรานี
|
เหมือนช่วยชูชีวีของพี่ไว้*
|
ถึงกลับไปก็ไม่อยู่ช้า
|
จะคืนมาชมชิดพิสมัย
|
จงเป็นมิตรไมตรีแต่นี้ไป*
|
ดังได้ตุนาหงันกันมา
ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
ร่าย
|
|
๏ ครั้นอ่านเสร็จสิ้นอักษร
|
ชอบพระทัยในกลอนที่วอนว่า
|
แต่เล่ห์กลสตรีมีมารยา
|
ทำโกรธาทิ้งประหนันเสียทันใด
|
จึ่งว่าชอบขอบใจพี่เจ้า
|
ช่างเอาบุหงาใครมาให้
|
แย้มเยื้อนเหมือนหนึ่งไม่เข้าใจ
|
ยิ้มละไมในหน้าพาที
|
จะมาเสใส่ข้าว่าไรเล่า*
|
พิสมัยก็เอาเป็นผัวพี่
|
ผู้ใหญ่อะไรอย่างนี้
|
ไม่มีความคิดสักนิดเดียว
|
ช่างเชื่อลิ้นหลงเล่ห์ลมชาย
|
หวานนักมักกลายเป็นเปรี้ยว
|
อย่าพักพูดบ่ายเบี่ยงเลี่ยงเลี้ยว
|
ล่อลวงหน่วงเหนี่ยวเกี่ยวพัน
|
ไม่เจียมตนจะไปปนที่สูงศักดิ์
|
เห็นเกินหน้าน้องนักพี่บาหยัน
|
ดังกระต่ายหมายชมดวงจันทร์
|
อะไรนั่นพาทีไม่มีอาย
ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
สองพี่เลี้ยงเล้าโลมโฉมฉาย
|
ใช่จะแกล้งแสร้งเสเพทุบาย
|
คิดหมายว่ามิใช่หาไหนมา
|
ก็นับในสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์
|
จะกระไรกว่ากันนักหนา
|
สมศักดิ์สมสกุลทั้งสองรา
|
นี่พี่หากว่าประสากัน
|
ถึงมาตรไม่จงจิตคิดปอง
|
แต่อย่าข้องเคืองเคียดเดียดฉันท์
|
สงสารพระองค์วงศ์เทวัญ
|
โศกศัลย์วอนว่าน่าปรานี
|
ในสารว่าจะขอเปลี่ยนสไบ
|
จะบิดเบือนมิให้ก็ใช่ที่
|
โฉมยงทรงคิดดูจงดี
|
พระภูมีจะละห้อยน้อยใจ
ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
จินตะหราวาตีศรีใส
|
ฟังพี่เลี้ยงสนองต้องฤทัย
|
ให้อาลัยในองค์พระทรงธรรม์
|
แต่ปากนางหากทำเป็นว่า
|
สมเพชเวทนาพี่บาหยัน
|
ช่างลุ่มหลงงงงวยไปด้วยกัน
|
สารพันล้วนเห็นว่าเป็นดี
|
อย่ามาเฝ้าเซ้าซี้ให้ขัดใจ
|
จะอย่างไรก็ตามความคิดพี่
|
ว่าพลางย่างเยื้องจรลี
|
เข้าไปในที่ไสยา
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
สองศรีพี่เลี้ยงเสนหา
|
แจ้งใจในทีพระธิดา
|
ก็ตามมายังที่บรรทม
|
ครั้นถึงจึ่งประณตบทมาลย์
|
นบนอบหมอบคลานกรานก้ม
|
บาหยันทำสนิทชิดชม
|
บังคมแล้วทูลไปทันใด
|
โฉมยงจงทรงพระเมตตา
|
วันนี้ข้าหนาวเย็นเหมือนเป็นไข้
|
จะขอผ้ารอยทรงองค์อรทัย
|
แม้นโปรดได้ให้ห่มจะค่อยคลาย
|
ว่าพลางทางทำเฉยหน้า
|
หยิบยกพานผ้ามาถวาย
|
แต่เฝ้าเตือนเยื้อนยิ้มพริ้มพราย*
|
จงเปลี่ยนเปลื้องจากกายกัลยา
ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
โฉมยงองค์ระเด่นจินตะหรา
|
เสแสร้งแกล้งกล่าววาจา
|
รำคาญวานอย่าให้ขัดใจ
|
น้องหรือจะรู้เท่าทัน
|
เชิงชั้นแยบยลคนผู้ใหญ่*
|
นางค้อนเคืองเปลื้องเปลี่ยนผ้าสไบ
|
ทำทิ้งประชดให้ด้วยมารยา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
พระพี่เลี้ยงบาหยันหรรษา
|
หยิบสไบรอยทรงนั้นมา
|
พัดพาดอังสาแล้วพาที
|
ครั้งนี้เห็นแท้แน่ตระหนัก
|
ว่าโฉมยงนงลักษณ์รักพี่
|
ว่าพลางทางทำยินดี*
|
อัญชลีแลดูตากัน
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment