อิเหนาพบนางจินตะหราเมื่อลงสรง
|
|
|
๏ มาเอยมาถึง
|
ยังโบกขรณีสระใหญ่
|
ร่มรอบคันล้วนพรรณไม้
|
โศกไทรสาขาริมวารี
|
บุษบงส่งกลิ่นอายอบ
|
หอมตลบไปทั้งสระศรี
|
ต่างองค์เกษมเปรมปรีดิ์
|
จรลีลงสรงคงคา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ*
|
สระบุหร่ง
|
|
๏ ชำระสระสนานสำราญกาย
|
เย็นสบายซ่านซาบมังสา
|
เสด็จนั่งยังแท่นแผ่นศิลา
|
ชุ่มแช่กายาในวารี
|
นางกำนัลบรรดาที่โปรดปราน
|
ประคององค์เอางานแล้วขัดสี
|
บ้างชำเลืองแลดูพระภูมี
|
ทำท่วงทีแยบยลกลใน
|
ลางนางบ้างเก็บบัวเผื่อน
|
ชวนเพื่อนหักห้อยเป็นสร้อยใส่
|
บ้างแหวกว่ายคงคาชลาลัย
|
เลี้ยวไล่สัพยอกหยอกกัน
|
ลางนางบ้างเก็บใบบัว
|
มาบังตัวถือเล่นเป็นร่มกั้น
|
บ้างเก็บโกมุทบุษบัน
|
ฝูงกำนัลเล่นน้ำสำราญ
ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ ลงสรง
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นมนตรีเกษมศานต์
|
สรงทางพลางดูเยามาลย์
|
ฤดีดาลเดือดดิ้นในวิญญาณ์
|
พระแกล้งแสร้งเสด้วยเล่ห์กล
|
ว่ายไปให้พ้นท้าวหมันหยา
|
เข้าแฝงกอโกสุมปทุมา
|
ลอบดูพระธิดาในวารี
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นจินตะหรามารศรี
|
สรงสนานอยู่ในชลธี
|
กับกำนัลนารีพี่เลี้ยง
|
ต่างชิงกันเก็บโกสุม
|
บ้างบานตูมหุ้มกลีบกลิ่นเกลี้ยง
|
โฉมฉายว่ายแซงแข่งเคียง
|
กับบาหยันพี่เลี้ยงร่วมใจ
|
เด็ดฝักหักดอกปทุมมาลย์
|
ขาวแดงแบ่งบานอยู่ไสว
|
เพลิดเพลินจำเริญหฤทัย
|
จนใกล้อิเหนาเข้ามา
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระโฉมยงวงศ์อสัญแดหวา
|
แฝงใบบุษบงในคงคา
|
เห็นกัลยามาใกล้ก็ได้ที
|
จึงยื่นกรช้อนสอดไปสัมผัส
|
นางสะบิ้งสะบัดเบี่ยงหนี
|
พระแกล้งแสร้งสาดวารี
|
ให้ชลธีถูกองค์นงคราญ
|
ครั้นบาหยันผันหน้ามาตรง
|
ก็ทำเป็นสีองค์สรงสนาน
|
แล้วเก็บโกสุมปทุมมาลย์
|
มาประทานบาหยันกัลยา
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
จินตะหราวาตีเสนหา
|
แย้มพรายชายชำเลืองนัยนา
|
สบเนตรเชษฐาก็อายใจ
|
จึงแสร้งแกล้งว่าพี่บาหยัน
|
อาไรนั่นช่างพาเข้ามาใกล้
|
อัปยศอดสูเป็นพ้นไป
|
ทำผลักไสหยิกตีพี่เลี้ยง
ฯ*
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
บาหยันยิ้มพลางทางทูลเถียง
|
พี่มิได้แกล้งพามาใกล้เคียง
|
พระมาเมียงอยู่เมื่อไรก็ไม่รู้
|
ชะรอยเป็นวาสนาของบาหยัน
|
เห็นติดพันชั้นเชิงชอบกลอยู่
|
ปากข้าว่าแม่นเหมือนหมอดู
|
โฉมตรูอย่ากริ้วโกรธา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
โฉมยงองค์ระเด่นจินตะหรา
|
ค้อนให้แล้วตอบวาจา
|
เอาอะไรมาว่าเป็นน่าชัง
|
ช่างไม่เจียมตัวแต่สักนิด
|
เกลียดจริตกิริยาเหมือนบ้าหลัง
|
ว่าแล้วลัดแลงแฝงบัวบัง
|
มายังที่อยู่พระชนนี
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เพลงฉิ่ง
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระตูหมันหยาเรืองศรี
|
เสร็จสรงคงคาวารี
|
ภูมีสำอางอ่าองค์
|
แล้วชวนมเหสีโสภา
|
กับธิดาแน่งน้อยนวลหง
|
พร้อมฝูงสุรางค์นางอนงค์
|
เสด็จตรงเข้ายังวังใน
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นมนตรีศรีใส
|
เสด็จทรงอาชาคลาไคล
|
กลับไปยังที่ประเสบัน
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
๏ ครั้นถึงลงจากอัสดร
|
ภูธรย่างเยื้องผายผัน
|
เข้าในห้องแก้วแพรวพรรณ
|
ทรงธรรม์ถอนฤทัยไปมา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
ช้า
|
|
๏ ทอดองค์ลงกับที่ไสยาสน์
|
ยอกรก่ายวิลาฏถวิลหา
|
ทีนี้เสร็จการจะนานช้า
|
จึงจะได้เห็นหน้านางเทวี
|
จะผ่อนผันฉันใดนะอกกู
|
จะได้อยู่หมันหยากรุงศรี
|
พระบิดาให้กลับไปธานี
|
มิรู้ที่จะทำประการใด
|
ยังมิได้สนิทเสนหา
|
จะนิราศคลาดคลากกระไรได้
|
แม้นมิสมดังจิตที่คิดไว้
|
ก็ไม่ไปพารากุเรปัน
|
แต่ครวญคร่ำกำสรดสลดจิต
|
ต้องติดฤทัยใฝ่ฝัน
|
แสนสวาทมาดหมายผูกพัน
|
จนบรรทมหลับไปกับไสยา
ฯ
|
ฯ ๘ คำฯ ตระ
|
ร่าย
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระผู้ผ่านไอศวรรย์หมันหยา
|
ครั้นรุ่งรางสร่างแสงสุริยา
|
ก็แต่งองค์โอ่อ่าเอาใจ
|
จึงตรัสชวนอัคเรศมเหสี
|
กับราชบุตรีศรีใส
|
พรั่งพร้อมฝูงสุรางค์นางใน
|
เสด็จไปสู่สีหบัญชร
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
๏ ลดองค์ลงนั่งบัลลังก์อาสน์
|
อำมาตย์หมอบเฝ้าอยู่สลอน
|
ว่าขานกิจการพระนคร
|
ภูธรเกษมเปรมปรีดิ์
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นมนตรีเรืองศรี
|
ครั้นรุ่งรางสว่างธาตรี
|
ภูมีตื่นจากที่ไสยา
|
เข้าที่สรงสนานสำราญองค์
|
บรรจงทรงเครื่องโอ่อ่า
|
ชวนระเด่นดาหยันยาตรา*
|
ทรงม้าที่นั่งเข้าวังใน
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
|
๏ ครั้นมาถึงที่ราชฐาน
|
พระผ่านผู้สวรรยาเป็นใหญ่
|
จึงลงจากอาชาคลาไคล
|
เข้าไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯเสมอ
|
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment