Latest News

Sunday, November 11, 2012

อิเหนา : อิเหนาพบนางจินตะหราที่พระเมรุ (๑๗)



อิเหนาพบนางจินตะหราที่พระเมรุ


     เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีศรีใส
ครั้นค่ำคำนึงถึงทรามวัย
ภูวไนยนิ่งนึกตรึกตรา
จะเข้าไปคอยอยู่ที่พระศพ
จะได้พบพุ่มพวงดวงยิหวา
คิดพลางย่างเยื้องลีลา
เข้ามาเมรุสุวรรณชั้นใน ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เพลงช้า
     ครั้นถึงจึ่งถวายอัญชลี
พระศพอัยกีเป็นใหญ่
จึ่งจุดธูปเทียนทันใด  
ด้วยใจเคารพบูชา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ สาธุการ
 
     เมื่อนั้น  
องค์ประไหมสุหรีเสนหา
สถิตยังสุวรรณพลับพลา   
ครั้นสิ้นแสงสุริยาเวลาพลบ
จึงชวนพระธิดายาใจ
จะเข้าไปทักษิณพระศพ
โขลนจ่าข้าหลวงวิ่งกระทบ
จุดคบโคมส่องเสด็จมา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เพลงช้า
     ครั้นถึงบริเวณพระเมรุใหญ่
เห็นนายไพร่พร้อมพรั่งนั่งรักษา
จึงหยุดยืนอยู่แทบทวารา   
ทั้งสองกษัตราไม่คลาไคล ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     บัดนั้น     
นางโขลนผู้มีอัชฌาสัย
วิ่งวางมาขับฉับไว 
พวกผู้ชายออกไปเสียให้พ้น ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
     เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีแจ้งเหตุผล
จึ่งขับเสนาสามนต์ 
ผู้คนทั้งนั้นออกมา
แต่องค์เดียวเสด็จจรจรัล 
ไปรับประหมันด้วยหรรษา
น้อมองค์ลงถวายวันทา  
แล้วแลดูจินตะหราวาตี ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
โฉมยงองค์ประไหมสุหรี
จึ่งตรัสชวนองค์ระเด่นมนตรี
มาทักษิณอัยกีด้วยกัน ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีเกษมสันต์
สมคิดดังจิตผูกพัน
จึงเสด็จจรจรัลตามมา
พระแสร้งทำทักษิณไปพลาง 
ชำเลืองเนตรดูนางจินตะหรา
แสงเพลิงส่องจับกับพักตรา
โสภาเพียงบุหลันลอยโพยม
ดูไหนให้เพลินจำเริญจิต
ยิ่งคิดพิสมัยที่ในโฉม
ครั้นตึงช่องกลางหว่างโคม
ลำลำจะใคร่โลมนางเทวี ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
     เมื่อนั้น   
ระเด่นจินตะหรามารศรี
ดำเนินเดินเคียงพระภูมี
ทำท่วงทีอายเอียงเมียงเมิน
แลสบหลบเนตรเชษฐา
กัลยายิ่งระทวยขวยเขิน
ให้อดสูจิตคิดสะเทิน
พลางเดินก้มพักตร์ทักษิณไป ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     เมื่อนั้น   
องค์ประไหมสุหรีศรีใส
เห็นท่วงทีอิเหนาก็เข้าใจ 
ทำเมินเดินไปไม่นำพา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     บัดนั้น     
พี่เลี้ยงกำนัลในซ้ายขวา
แจ้งใจในทีกิริยา
ชายตาดูองค์พระทรงธรรม์
เห็นดำเนินเดินชิดพระธิดา
กิริยาแยบคายคมสัน
บ้างบอกเพื่อนสนิทสะกิดกัน
นางกำนัลซุบซิบกระหยิบตา
ที่มีอัชฌาสัยมิใคร่เดิน
ทำเมินยิ้มละไมอยู่ในหน้า
บ้างรอรั้งยั้งยืนพูดจา
ตามเสด็จเดินมาแต่ไกลไกล ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
     เมื่อนั้น   
ระเด่นมนตรีศรีใส
เดินเคียงกัลยาคลาไคล   
เห็นนางห่างไกลพระชนนี
จึงเอาพลูรอยกัดซัดต้ององค์
โฉมยงสะดุ้งเดินเมินหนี
พระรีบไปพลันทันเทวี
ภูมียิ้มพรายชายตา
เห็นนางเดินเมินเมียงเลี่ยงหลบ
พระแกล้งทำกระทบอังสา
นาสิกสูดรสสุคนธา* 
กัลยาเคืองค้อนงอนงาม
แต่เวียนวงทักษิณรอบพระศพ   
จนจบถ้วนครบคำรบสาม
ให้อาลัยที่จะไกลนงราม     
ด้วยความปฏิพัทธ์พันทวี ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
โฉมยงองค์ประไหมสุหรี
ครั้นเสร็จทักษิณศพพระอัยกี
ก็จรลีมาสุวรรณพลับพลา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เพลงเร็ว
     เมื่อนั้น     
องค์ท้าวเจ้าเมืองหมันหยา
สมโภชพระศพเสร็จเจ็ดทิวา
ครั้นเพลาบ่ายแสงสุริยง
จึ่งให้เชิญพระโกศทองลองใน 
ขึ้นใส่เชิงตะกอนสูงส่ง
พร้อมพระมเหสีสุริย์วงศ์  
ทั้งองค์อิเหนานัดดา
ต่างถือธูปเทียนดอกไม้
เข้าไปประนมน้อมพร้อมหน้า
จบพระหัตถ์มัสการขอสมา
อย่าให้มีเวราสืบไป
ครั้นเสร็จจึ่งจุดเพลิงพลัน*
สารพันเครื่องหอมซัดใส่
คับคั่งทั้งข้างหน้าข้างใน  
ต่างคนเข้าไปจุดอัคคี ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ ปี่กลอง
     เมื่อนั้น
โฉมยงองค์ประไหมสุหรี
ทั้งระเด่นจินตะหราวาตี
ดูเปลวอัคคีชัชวาล
นางยิ่งระทดสลดจิต 
อาลัยให้คิดสงสาร
ต่างองค์ยกหัตถ์มัสการ 
เยาวมาลย์ข้อนทรวงเข้าโศกา ฯ
โอ้บูชากณฑ์ ฯ ๔ คำ ฯ โอด
     โอ้บูชากนฑ์*

     โอ้ว่าพระทูลกระหม่อมเอ๋ย 
พระคุณเคยปกเกล้าเกศา
เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมา
ไม่นิราศคลาดคลาสักคืนวัน
พระพี่นางทั้งสองมาเชิญไป
ก็มิได้จำนงผายผัน
เพราะรักใคร่ในลูกผูกพัน
ประโลมเลี้ยงหลานขวัญทุกเวลา
ทีนี้ตั้งแต่จะแลลับ
ที่ไหนจะได้กลับมาเห็นหน้า
ร่ำพลางนางทรงโศกา
กัลยาเพียงจะสิ้นสมประดี ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ โอด
     ร่าย

     เมื่อนั้น
พระผู้ผ่านหมันหยากรุงศรี           
ครั้นเสด็จส่งสักการพระอัยกี
ภูมีสร้อยเศร้าเปล่าวิญญาญ์
จึ่งชวนมเหสีโฉมยง
กับองค์บุตรีเสนหา
พร้อมฝูงกำนัลกัลยา
ลีลาเข้ายังวังใน ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
     เมื่อนั้น 
ระเด่นมนตรีศรีใส
ครั้นท้าวหมันหยาคลาไคล
ก็กลับไปที่อยู่พระภูธร ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
     ครั้นถึงห้องสุวรรณบรรจง
ทอดองค์ลงกับที่บรรจถรณ์
ถวิลถึงวนิดายิ่งอาวรณ์
พลางสะท้อนถอนใจไปมา
กรกอดเขนยข้างไว้หว่างทรวง
สำคัญว่าพุ่มพวงดวงยิหวา
เคลิ้มเคล้นเหมือนจะเห็นกัลยา
พระหลงใหลไขว่คว้าม่านมอง
ครั้นรู้สึกสมประดีว่ามิใช่
ก็เศร้าเสียพระทัยหม่นหมอง
ให้โศกศัลย์รัญจวนถึงนวลน้อง
นิ่งตรึกตรองจนหลับไป ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ ตระ
     เมื่อนั้น  
ระตูหมันหยาเป็นใหญ่
ครั้นรุ่งสางสร่างแสงอโณทัย
ภูวไนยแต่งองค์อลงกร
ครั้นเสร็จเสด็จจรลี
มายังที่เกยลาหน้าฉาน
ขึ้นทรงยานุมาศสามคาน
พนักงานแห่แหนแน่นนันต์
องค์ประไหมสุหรีกับธิดา
เสด็จมาในแนวฉนวนกั้น
ระเด่นมนตรีกุเรปัน  
ก็ตามมาเมรุสุวรรณบรรจง ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด
     ครั้นถึงจึงชวนพระวงศา
เขี่ยหาพระธาตุกวาดเผ้าผง
เก็บได้ใส่ขันสุวรรณลง
โสรจสรงสุคนธาวารี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     เมื่อนั้น      
ระเด่นจินตะหรามารศรี
เขี่ยหาพระธาตุอัยกี   
เทวีพลางทรงโศกาลัย ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     เมื่อนั้น 
ระเด่นมนตรีศรีใส
เห็นนางหยิบลงที่แห่งใด
ภูวไนยหยิบลงที่ตรงนั้น
พระกรกระทบกรนางเทวี 
ทำทีแยบคายคมสัน
แล้วแสร้งทรงโศกาจาบัลย์  
มิให้สองประหมันกินใจ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     เมื่อนั้น 
พระผู้ผ่านหมันหยาเป็นใหญ่
เสร็จสรงพระธาตุทันใด
ใส่ในโกศรัตน์ชัชวาล
ให้เชิญเข้าไปในวัง   
สถิตยังปราสาทราชฐาน
และสั่งให้ลอยพระอังคาร  
ตามจารีตบุราณแต่ก่อนมา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     บัดนั้น      
เสนีรับสั่งใส่เกศา
มาจัดแจงแต่งตามพระบัญชา
ชาวมาลาไปกวาดพระอังคาร
เอาห่อหุ้มคลุมผ้าโขมพัตถ์
แล้วผูกรัดพันเข้าทั้งเถ้าถ่าน
ใส่ในขันทองรองพาน   
เชิญขึ้นพระยานุมาศมา
คู่แห่แต่ล้วนใส่ลำพอก        
พนมมือถือดอกบุปผา
เสียงประโคมฆ้องกลองก้องโกลา 
แห่ไปยังท่าชลาลัย ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ กลองโยน
     ครั้นถึงตะพานเหนือตำหนักแพ
เรือแห่ธงทิวปลิวไสว
จึงเชิญพระอังคารลงไป
เรือที่นั่งเอกชัยฉับพลัน
พลพายนั่งพายเป็นคู่คู่ 
ใส่เสื้อปัศตูดูขบขัน         
เรือขุนนางเรือที่นั่งดั้งกัน
แห่แหนแน่นันต์นทีธาร ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ครั้นถึงกึ่งกลางสายชล    
เป็นวังวนกว้างใหญ่ไพศาล
ชาวภูษามาลาพนักงาน   
ก็เชิญพระอังคารลอยลง ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
ระตูหมันหยาสูงส่ง
ครั้นเสร็จถวายพระเพลิงปลง
จึ่งชวนองค์ระเด่นมนตรี
จะไปสรงสนานภราญใจ
ที่สระใหญ่อยู่นอกกรุงศรี
ตามอย่างทางราชประเพณี  
กษัตราธิบดีสืบมา
ว่าแล้วลีลาคลาไคล 
เสนาในแห่แหนแน่นหนา
องค์ประไหมสุหรีศรีโสภา 
กับธิดาเสด็จตามกันไป ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด
no image
  • Blogger Comments
  • Facebook Comments

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

Top