นางอัยยิกาอิเหนาทิวงคต
|
|
|
ช้า
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป
|
ถึงระตูผู้ผ่านหมันหยา
|
อยู่จำเนียรกาลนานมา
|
พระมารดาสุดสิ้นทิวงคต
|
มเหสีสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์
|
ต่างแสนโศกศัลย์กำสรด
|
ทั้งองค์ระตูผู้มียศ*
|
ก็ระทดพระทัยพันทวี
|
จึ่งให้เชิญพระศพใส่โกศทอง
|
สถิตไว้ในห้องปราสาทศรี
|
ตกแต่งตามตำแหน่งประเพณี
|
กษัตราธิบดีแต่ก่อนมา
|
แล้วมีพจนารถประสาทสั่ง
|
อำมาตย์ดะหมังยาสา
|
ท่านจงจัดแจงแต่งตรา
|
บอกบรรดาเมืองขึ้นของเรา
|
ให้ผู้รั้งทั้งปวงหลวงปลัด
|
เกณฑ์ไพร่เร่งรัดไปตัดเสา
|
กำหนดยาวใหญ่ย่อมกล่อมเกลา
|
ให้ได้เท่าตามอย่างช่างให้การ
|
ทุกสิ่งสารพัดผัดแผง
|
จัดแจงข้าส่วยให้ช่วยสาน
|
จงหมายบอกทุกตำแหน่งพนักงาน
|
จะทำการให้เสร็จในปีนี้
|
แล้วสั่งปาเตะตำมะหงง
|
ท่านจงแต่งราชสารศรี
|
ไปดาหากุเรปันพระบุรี*
|
ว่าพระชนนีนั้นมรณา
ฯ
|
ฯ ๑๔ คำ ฯ
|
ร่าย
|
|
๏ บัดนั้น
|
อำมาตย์ทั้งสี่มียศถา
|
รับส่งแล้วบังคมลา
|
ออกมาจากพระโรงรูจี
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
|
๏ รีบเขียนหนังสือหลายฉบับ
|
แล้วประทับปิดตราพระราชสีห์
|
ให้ม้าใช้ถือไปทุกธานี
|
ตามมีรับสั่งพระทรงธรรม์
|
แล้วแต่งราชสารลงลานทอง*
|
มอบให้สองสามนต์คนขยัน
|
จงรีบไปหากุเรปัน
|
สิบห้าวันให้ถึงพารา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
เสนีสองนายซ้ายขวา*
|
คำนับรับราชสารา
|
มาขึ้นม้าแยกย้ายกันไป
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
๏ ครั้นถึงกุเรปันนคเรศ
|
ก็เข้าในนิเวศน์วังใหญ่
|
บอกแก่ยาสาเสนาใน
|
แล้วส่งสารให้ทันที
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ยาสาเสนาบดีศรี
|
พาอำมาตย์หมันหยาธานี
|
เข้าไปเฝ้าธุลีพระบาทา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
|
๏ ครั้นถึงจึ่งถวายบังคม
|
นบนิ้วประนมเหนือเกศา
|
ทูลแถลงแจ้งความตามกิจจา
|
แล้วถวายสาราพระทรงธรรม์ฯ
|
ฯ ๒ คำ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระผู้ผ่านกรุงไกรไอศวรรย์
|
คลี่สารอ่านทราบทุกสิ่งอัน
|
จึ่งมีพระบัญชาไป
|
พระประชวรฉันใดก็ไม่รู้
|
ควรหรือระตูช่างนิ่งได้
|
ต่อเมื่อพระสวรรคาลัย
|
จึ่งให้มาแจ้งกิจจา
ฯ*
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
เสนีที่มาแต่หมันหยา
|
ได้ฟังพจนารถประภาษมา
|
จึ่งสนองบัญชาพระทรงยศ*
|
แต่แรกประชวรมาได้ห้าวัน
|
พระโรคนั้นเห็นพอจะเปลื้องปลด
|
โภชนาอาหารก็มีรส
|
เสวยพระโอสถทุกเวลา
|
ระตูภูธรไว้พระทัย
|
ว่าจะไม่เป็นไรหนักหนา
|
จึ่งมิได้มีราชสารา
|
มาทูลกิจจาภูวไนย
|
พระโรคนั้นกลับกลายเมื่อภายหลัง
|
หนักลงเหลือกำลังจะแก้ไข
|
สองวันก็สวรรคาลัย
|
ภูวไนยจงทราบฝ่าธุลี
ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ท้าวกุเรปันเรืองศรี
|
ได้ฟังจะแจ้งแห่งคดี
|
ภูมีจึงสั่งเสนา
|
จงจัดแจงแต่งของไทยทาน
|
ไปช่วยการพระศพในหมันหยา
|
สั่งเสร็จเสด็จลีลา
|
เข้ามหาปราสาทรูจี
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
๏ นั่งเหนือบัลลังก์รัตน์ชัชวาล
|
พร้อมห้าเยาวมาลย์มเหสี
|
พระจึ่งยื่นสารนั้นทันที*
|
ให้ประไหมสุหรีกัลยา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ประไหมสุหรีเสนหา
|
คลี่สารอ่านแจ้งกิจจา*
|
ว่าพระมารดาพิราลัย
|
ดั่งหนึ่งพระกาลชาญฤทธิ์
|
มาเด็ดดวงชีวิตไปได้
|
ชลเนตรฟูมฟองนองนัยน์
|
สะอื้นไห้ครวญคร่ำรำพัน
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ โอด
|
โอ้
|
|
๏ โอ้พระชนนีของลูกเอ๋ย
|
พระคุณเคยปกป้องประคองขวัญ
|
เชยชมเช้าเย็นเป็นนิรันดร์
|
สารพันมิให้อนาทร
|
ยังมิได้ทดแทนสนองคุณ
|
ซึ่งการุญรักร่ำพร่ำสอน
|
หรือมาละลูกไว้ให้อาวรณ์
|
หนีไปอมรเมืองฟ้า
|
พระประชวรโรคันคุ้งบรรลัย
|
ก็มิได้พิทักษ์รักษา
|
เสียแรงที่อุ้มท้องประคองมา
|
กัลยาร่ำพลางทางโศกี
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ โอด
|
ร่าย
|
|
๏ ครั้นค่อยเคลื่อนคลายวายเทวษ
|
จึ่งกราบทูลภูวเรศเรืองศรี
|
ข้าขอบังคมลาฝ่าธุลี
|
ไปดูแลเปลวอัคคีพระมารดา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระสุริย์วงศ์องค์ศรีปัตหรา
|
นิ่งนึกตรึกไตรไปมา
|
ครั้นจะให้กัลยาคลาไคล
|
เกลือกระตูผู้ผ่านแผ่นดิน*
|
จะดูหมิ่นประมาทหาควรไม่
|
จะเสียเกียรติยศปรากฏไป
|
ทุกกรุงไกรจะติฉินนินทา*
|
คิดพลางทางปลอบมเหสี
|
อย่ากันแสงโศกีฟังพี่ว่า
|
อันเกิดแล้วไม่แคล้วมรณา
|
ถึงพรหมินทร์อินทราก็เหมือนกัน
|
ซึ่งจะไปส่งสการพระมารดร
|
ยังนครหมันหยาเขตขัณฑ์*
|
กันดารโดยมรคาอารัญ
|
ทั้งทรงครรภ์ได้แปดเดือนปลาย
|
เกลือกจะเกิดเหตุใหญ่ขึ้นในป่า
|
จะลำบากกายาโฉมฉาย
|
รู้ไปถึงไหนจะได้อาย
|
เขาจะฉินยินร้ายทุกพารา
|
เจ้าจงจัดแจงแต่งไทยทาน
|
ส่งสการพระศพดีกว่า
|
ให้อิเหนาลูกเราลีลา
|
ก็เหมือนกับกัลยาคลาไคล
ฯ
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ประไหมสุหรีศรีใส
|
ได้ฟังภิปรายค่อยคลายใจ
|
อรไททูลสนองพระวาจา
|
ซึ่งพระองต์ตรัสโปรดมาทั้งนี้
|
เห็นชอบท่วงทีเป็นหนักหนา
|
ว่าแล้วถวายบังคมลา
|
ลงมาที่อยู่เยาวมาลย์
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระองค์ผู้ดำรงราชฐาน
|
จึงตรัสสั่งดะหมังมิทันนาน
|
จงรีบไปแจ้งการอนุชา
|
เราจะให้ระเด่นมนตรี
|
ไปปลงศพอัยกียังหมันหยา*
|
จะจัดแจงใครไปก็ให้มา
|
สองเมืองจะได้พากันคลาไคล
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ดะหมังรับสั่งบังคมไหว้
|
มาเร่งรัดจัดกันทันใด
|
พร้อมเหล่าบ่าวไพร่แล้วไคลคลา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
๏ มาถึงทางร่วมพนาลี
|
ก็พบพวกเสนีหมันหยา
|
ต่างคนต่างรีบเร่งมา
|
ก็ถึงกรุงดาหาพร้อมกัน
|
จึงไปหาปาเตะเสนี
|
แถลงเล่าคดีขมีขมัน
|
พอเพลาเฝ้าองค์พระทรงธรรม์
|
ก็พากันไปพระโรงรูจี
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ จึ่งก้มเกล้าประณตบทมาลย์
|
พระผู้ผ่านดาหากรุงศรี
|
อำมาตย์หมันหยาธานี
|
อัญชลีทูลถวายสารา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระสุริย์วงศ์องค์ศรีปัตหรา
|
คลี่สารอ่านแจ้งในกิจจา
|
ให้สังเวชวิญญาณ์จาบัลย์
|
จึงสั่งคลังวิเสทศุภรัต
|
จงจัดไทยทานทุกสิ่งสรรพ์
|
แล้วถามดะหมังกุเรปัน
|
พระทรงธรรม์ใช้มาว่าไร
ฯ*
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ดะหมังบังคมแถลงไข
|
บัดนี้พระเชษฐาบัญชาใช้
|
มาทูลให้ทราบธุลีพระบาทา
|
พระจะให้องค์ระเด่นมนตรี
|
เสด็จไปบุรีหมันหยา
|
อันเครื่องไทยทานการนานา
|
ให้พร้อมแต่สิบห้าราตรี
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ท้าวดาหาสุริย์วงศ์เรืองศรี
|
ได้แจ้งแห่งคำเสนี
|
ภูมีนิ่งนึกตรึกไตร
|
พระเชษฐาน่าจะแหนงฤทัยอยู่
|
ด้วยระตูจะประมาทหมิ่นได้
|
หวังมิให้กัลยาคลาไคล
|
จึงอุบายเป็นนัยมาดังนี้
|
คิดพลางทางมีบัญชาสั่ง
|
ดะหมังจงคืนไปกรุงศรี
|
ทูลพระเชษฐาธิบดี
|
ว่าเราอัญชลีพระบาทา
|
จะให้เสนานำของไป
|
ยังนิเวศน์เวียงชัยพระเชษฐา
|
บรรจบกันกับอิเหนานัดดา
|
ไปเขตขัณฑ์หมันหยาธานี
|
สั่งเสร็จเสด็จยุรยาตร
|
ไปปราสาทองค์ประไหมสุหรี
|
นั่งเหนือบัลลังก์รัตน์รูจี
|
พระส่งสารศรีให้กัลยา
ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ประไหมสุหรีเสนหา
|
คลี่สารอ่านพลันมิทันช้า
|
แจ้งว่าชนนีทิวงคต
|
นางตระหนกอกสั่นขวัญหาย
|
เพียงจะวายชีวิตปลิดปลด
|
สองกรข้อนอุรารันทด
|
พิไรร่ำกำสรดโศกา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ โอด
|
โอ้
|
|
๏ โอ้ว่าพระมารดาเจ้า
|
พระบาทเคยปกเกล้าเกศา
|
เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมา
|
มิให้เคืองวิญญาณ์เท่ายองใย
|
พระเจ็บไข้ก็มิได้พยาบาล
|
จะรู้ข่าวอาการก็หาไม่
|
จนสุดสิ้นชีวันบรรลัย
|
ลูกมิได้เห็นใจพระมารดร
|
ร่ำพลางทางทรงโศกี
|
ทอดองค์ลงกับที่บรรจถรณ์
|
ดังจะม้วยชีวาด้วยอาวรณ์
|
บังอรไม่เป็นสมประดี
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ โอด
|
ร่าย
|
|
๏ ครั้นค่อยคลายอาดูรจึงทูลไป
|
ภูวไนยจงโปรดเกศี
|
ข้าขอบังคมลาไปธานี
|
ดูเปลวอัคคีพระมารดา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระองค์ทรงพิภพดาหา
|
จึ่งโลมเล้าเอาใจไปมา
|
เจ้าอย่าอาวรณ์ร้อนฤทัย
|
อันกำเนิดเกิดมาในสากล
|
ใครจะพ้นมรณะก็หาไม่
|
จงระงับดับความอาลัย
|
ถึงโศกไปใช่ที่จะเป็นมา
|
ซึ่งเจ้าว่าจะลาบทจร*
|
ไปนครเขตขัณฑ์หมันหยา
|
ในฤดูเดือนนี้จะลีลา
|
กันดารโดยมรคาท่าทาง
|
ฝูงโขมดมายาย่อมอาเพศ
|
ให้เกิดเหตุอันตรายหลายอย่าง
|
ใช่จะแกล้งเกียดกันกั้นกาง
|
ถึงพี่นางก็ไม่ไคลคลา
|
โฉมยงจงจัดไทยทาน
|
ส่งสักการพระศพจะดีกว่า*
|
ให้เสนีนำไปด้วยนัดดา*
|
ก็เหมือนกัลยาคลาไคล
ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ประไหมสุหรีศรีใส
|
ได้ฟังบัญชาภูวไนย
|
อรไทค่อยคลายโศกา
|
จึงมีเสาวนีย์ตรัสสั่ง
|
พนักงานชาวคลังซ้ายขวา
|
จงจัดเครื่องไทยทานนานา
|
จะให้ไปหมันหยาธานี
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ฝ่ายนางพนักงานสาวศรี
|
รับสั่งแล้วรีบจรลี
|
มาจัดตามเสาวนีย์กัลยา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา
|
๏ สิ่งของไทยทานก็เตรียมพร้อม*
|
ทั้งเครื่องหอมเนื้อไม้กฤษณา
|
ครั้นเสร็จให้ขนเข้ามา
|
ถวายองค์กัลยาทันที
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
โฉมยงองค์ประไหมสุหรี
|
เคารพจบพระหัตถ์ด้วยยินดี
|
เทวีสมาโทษพระมารดา
|
จึงตรัสสั่งสาวสวรรค์ทันใด
|
ให้ขนของไปข้างหน้า
|
มอบให้ดะหมังเสนา
|
ไปด้วยนัดดาโดยลำพัง
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
นางกำนัลคำนับรับสั่ง
|
จึ่งขนของออกไปจากในวัง
|
มอบให้ดะหมังทันที
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ดะหมังนั่งตรวจดูถ้วนถี่
|
ให้เสมียนจดหมายรายบัญชี
|
ผูกถือใส่ที่แล้วตีตรา
|
ให้ขนสิ่งของบรรทุกช้าง
|
เหลือนั้นใส่ต่างมหิงสา
|
ครั้นเสร็จก็ยกโยธา
|
ออกจากพารารีบไป
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
|
๏ เร่งรัดพลมาสิบห้าวัน
|
ก็ถึงกุเรปันกรุงใหญ่
|
ครั้นเวลาเฝ้าท้าวไท
|
ก็เข้าไปพระโรงรัตนา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ จึงก้มเกล้าประณตบทบงสุ์
|
พระองค์ทรงพิภพนาถา
|
ทูลแถลงแจ้งความตามกิจจา
|
ให้ทราบบาทาทุกสิ่งไป
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ท้าวกุเรปันเป็นใหญ่
|
ได้ฟังดะหมังเสนาใน
|
จึงตรัสไปแก่องค์พระลูกยา
|
เจ้าจงคุมของสองธานี
|
ไปปลงศพอัยกียังหมันหยา
|
แทนองค์พระราชมารดา
|
กับประหมันดาหาเวียงชัย
|
แล้วดูโยธีที่ทำงาน
|
แม้นเห็นการไล่ล่าเป็นไฉน
|
บอกกมาจะเพิ่มพลไกร
|
ไประดมทำให้ทันที
|
เสร็จแล้วลูกแก้วอย่าอยู่ช้า
|
เร่งกลับมากุเรปันกรุงศรี
|
จึงตรัสสั่งปาเตะเสนี
|
จงตรวจเตรียมโยธีรี้พล
|
ท่านไปด้วยช่วยดูเป็นผู้ใหญ่
|
เอาใจใส่อย่าให้มีเหตุผล
|
สั่งเสร็จเสด็จจรดล
|
ขึ้นสู่ไพชยนต์ปราสาทชัย
ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ เสมอ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นมนตรีศรีใส
|
ครั้นเสด็จขึ้นแล้วก็คลาไคล
|
กลับไปอยู่ที่พระภูมี
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ปาเตะเสนาบดีศรี
|
ออกมาจัดพลโยธี
|
ตามมีพระราชบัญชา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
ยานี
|
|
๏ ขุนช้างต่างผูกคชสาร
|
เคยชำนาญการณรงค์แกล้วกล้า
|
ขุนม้าก็ผูกอาชา
|
เบาะอานพานหน้าประดับดาว
|
ขุนรถตรวจเตรียมเทียมพาชี
|
สลับสีเหลืองกะเลียวเขียวขาว
|
ขุนพลจัดพลเดินเท้า
|
นายหมวดตรวจบ่าวพร้อมเพรียง
|
พวกทำที่ประทับพลับพลา
|
ให้ล่วงหน้ารีบไปแต่ในเที่ยง
|
จัดแจงหาบคอนผ่อนเสบียง
|
ตามเยี่ยงอย่างเสด็จยาตรา
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment