Latest News

Tuesday, April 23, 2013

อิเหนา : อิเหนาเข้าเฝ้าท้าวหมันหยา (๕๓)


อิเหนาเข้าเฝ้าท้าวหมันหยา


     ร่าย

     ๏ บัดนั้น
หญิงชายประชาชาวกรุงศรี
รู้ว่าระเด่นมนตรี
เสด็จเข้าธานีก็ปรีดา
บ้างอุ้มลูกอุตลุดฉุดหลาน
ลนลานลงจากเคหา
สามหนุ่มกลุ้มเกลื่อนกันมา
ตั้งตาคอยดูภูวไนย
ครั้นเห็นธงทวนกระบวนแห่
พิศวงหลงแลไม่เมินได้
บ้างชมธงฉานธงชัย
ชมพวกพลไกรโยธา
ครั้นเมื่อเห็นองค์พระทรงธรรม์
กั้นกลดพื้นสุวรรณโอ่อ่า
ต่างพินิจพิศพลางไม่วางตา
จนลืมวันทาพระภูธร
บ้างอำนวยอวยพรอยู่อึงมี่
ให้ได้กับพระบุตรีดวงสมร
อยู่เย็นเป็นศรีพระนคร
ราษฎรจะได้พึ่งพระบารมี ฯ
ฯ ๑๐ คำ ฯ

     ๏ เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีเรืองศรี
ได้ฟังชาวพาราพาที
ถวายพรภักดีนี่นันต์
พระเร่งชื่นชมภิรมย์จิต
สมคิดต้องฤทัยที่ใฝ่ฝัน
ชำเลืองดูประสันตาให้หน้ากัน
พลางแย้มยวนสรวลสันต์สำราญใจ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ บัดนั้น
ประสันตารู้แจ้งอัชฌาสัย
บังคมพลางทางกระซิบทูลไป
ได้ทรงฟังมั่งหรือไม่พระราชา
เมื่อกี้เหล่าไพร่ฟ้าประชาชน
เขาพูดจาชอบกลเป็นหนักหนา
สมพรปากหากได้เหมือนวาจา
ประสันตาจะพลอยดีใจ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีศรีใส
สรวลพลางทางขับมโนมัย
เข้าในนิเวศน์วังพลัน
ชวนระเด่นดาหยนยุรยาตร
ลงจากอัศวราชผาดผัน
เข้าไปประนมบังคมคัล
สองประหมันอะหยีด้วยปรีดา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
     ๏ เมื่อนั้น
ระตูผู้ผ่านหมันหยา
ทั้งประไหมสุหรีศรีโสภา
เห็นอิเหนาเข้ามาก็ยินดี
จึงตรัสเรียกนัดดามานั่งใกล้
แล้วปราศรัยด้วยความเกษมศรี
แต่เจ้าจากหมันหยาธานี
น้านี้คิดถึงเป็นพ้นไป
ซึ่งเจ้ากรีธาพลาพล
มีธุระกังวลเป็นไฉน
จะมาเมืองหมันหยานี้หรือไร
หรือจะไปเมืองไหนพระนัดดา ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีก็หรรษา
จึงน้อมเศียรสนองพระบัญชา
อันธุรกิจจานั้นไม่มี
หลานมาเที่ยวเล่นป่าพนาลัย
พอใกล้จึงแวะเข้ามานี่*
หวังจะเยือนพระองค์ทรงธรณี
เกลือกจะมีอันตรายโรคา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ท่านท้าวเจ้าเมืองหมันหยา
ยิ้มพลางทางตอบวาจา
ทุกข์ร้อนโรคาก็บางเบา
อันสามกษัตริย์สุริย์วงศ์
บิตุราชมาตุรงค์ของเจ้า
ทั้งยาหยีโฉมยงนงเยาว์
ยังสบายบรรเทาทุกข์ร้อน
อนึ่งในกรุงกุเรปัน
เกษมสันต์เป็นสุขสโมสร
เสนาในไพร่ฟ้าประชากร
นิราศร้อนโรคันหรือฉันใด ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีเฉลยไข
อันพระบิตุเรศเรืองชัย
ทั้งประไหมสุหรีวิยะดา
ก็อยู่เย็นเป็นสุขทุกนิรันตร
ทั่วทั้งกุเรปันหรรษา
ปราศจากอันตรายโรคา
ไพร่ฟ้าประชากรก็สำราญ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
องค์ประไหมสุหรีเกษมศานต์
จึงมีมธุรสพจมาน
เมื่อวันวานนี้ถือว่าโจรไพร
ต่างตระหนกตกใจทั้งพารา
จะรู้ว่านัดดาก็หาไม่
เจ้าจะเที่ยวเล่นป่าพนาลัย
เหตุใดจึงทำดังนี้ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีเรืงศรี
ยิ้มพลางทางทูลไปทันที
หลานนี้ไม่สบายวิญญาณ์*
คิดจะใคร่เที่ยวชมต่างประเทศ
จึงแกล้งแปลงเพศเป็นชาวป่า
ครั้นว่ามิทำดังนี้มา
ก็จะเลื่องลือชาทุกธานี ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ระตูผู้ผ่านกรุงศรี
สำรวลสรวลสันต์แล้วพาที
ตรัสสั่งเสนีในทันใด
จงแต่งที่ประเสบันอากง
ให้องค์นัดดาอาศัย
เครื่องเสวยเคยส่งจงส่งไป
กว่าจะได้กลับคืนพารา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ บัดนั้น
ดะหมังบังคมเหนือเกศา
จึงทูลสนองพระบัญชา
ที่ข้างหน้าแต่งแล้วพระภูวไนย ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
องค์ท้าวหมันหยาเป็นใหญ่
จึงตรัสแก่นัดดาดวงใจ
จงไปหยุดพักให้สำราญ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
อิเหนาคำนับรับบรรหาร
ก้มเกล้าประณตบทมาลย์
แล้วลีลาจากสถานพระโรงคัล ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
     ๏ ครั้นถึงจึงขึ้นบนตำหนัก
ยับยั้งหยุดพักเกษมสันต์
ค่อยสบายคลายใจจาบัลย์
เป็นสุขทุกวันเวลา
พระคิดถึงจินตะหราโฉมยง
จะใคร่ได้ดังจำนงปรารถนา
วันหนึ่งจึงสั่งประสันตา
ไปหาสี่เสนามาบัดนี้ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ บัดนั้น
ประสันตารับสั่งใส่เกศี
ถวายบังคมคัลอัญชลี
รีบไปดังมีบัญชาการ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
     ๏ ครั้นถึงจึงแกล้งแจ้งกิจจา
รับสั่งใช้มาให้หาท่าน
ขอเชิญไปเฝ้าบทมาลย์
เป็นการเร็วร้อนอย่านอนใจ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     ๏ บัดนั้น
ทั้งสี่เสนาผู้ใหญ่
ครั้นแจ้งก็พากันคลาไคล
ไปตำหนักภูวไนยทันที ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
     ๏ ต่างคนเคารพอภิวาท
กราบลงแทบบาทบทศรี
หมอบอยู่ตรงพักตร์พระภูมี
คอยฟังคิดจะตรัสมา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
พระโฉมยงทรงโสมนัสสา*
จึงกล่าวสุนทรวาจา
ดูราดะหมังมนตรี
อย่างไรนั่นที่ท่านไปว่าขาน
เมื่อออกไปปลายด่านกรุงศรี
หลายวันแล้วมาอยู่ในบุรี
ไหนนี่ไม่เหมือนที่ว่าไว้
ทั้งสี่นายช่วยถ่ายของสู่
เอ็นดูเราด้วยช่วยแก้ไข
แม้นมิโปรดปรานประการใด
จงพิดทูลให้ได้ท่วงที ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
     ๏ บัดนั้น
จึ่งมหาเสนาทั้งสี่
ยิ้มแล้วอภิวันท์อัญชลี
ดะหมังมนตรีก็ทูลไป*
ซึ่งถ้าว่าขานที่ผ่านนั้น
จะเอาเป็นคำมั่นนั้นไม่ได้
แต่คะเนดูเห็นไม่เป็นไร
จะช่วยไปกว่าจะสุดกำลัง ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ

อิเหนา : อิเหนาเข้าเฝ้าท้าวหมันหยา (๕๓)
  • Blogger Comments
  • Facebook Comments

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

Top