Latest News

Monday, July 25, 2011

ลิลิตพระลอ ตอน ๔

ร่าย
    o สองนายลงในสระ สองนายพะสองนาง ค่อยหัวพลางยยิ้ม คอยเมื่อสองมาปิ้ม ดอกแสร้งถามขา

โคลง ๔
    o สองนายมาแต่ด้าว
แดนใด
มาบ่เกรงกลัวใจ
อาจแท้
ดังฤๅจึ่งลงใน
สระราช นี้นา
เร็วเร่งขึ้นพลันแม้
ไม่ขึ้นเปนความ ฯ
    o พี่จะขึ้นเจ้าอย่า
ขับหนี
มาแต่เมืองไกลลี-
ลาศเต้า
เห็นสระสนุกมี
ใจใคร่ ชมนา
เรียมบ่ได้รู้เจ้า
อย่าเผ้อคุกคาม ฯ
    o เรียมมาสวนนี่ไส้
นฤมล พี่เอย
แลบ่เห็นสักคน
หนึ่งเฝ้า
เห็นสระสนุกชล
จักอาบ ตนนา
ฤๅและมามีเจ้า
ว่าให้เรียมอาย ฯ
    o เรียมลาสองแม่แล้
ทรามรัก พี่เอย
จะอยู่จะอายนัก
กว่านี้
เปนชายแลหญิงผลัก
หนีหน่าย ตนนา
เพราะบ่เห็นแก้วกี้
จึ่งได้มาลง ฯ
    o พี่ขุนไปด่วนขึ้ง
นักหนา เล่านา
ผิดคาบเดียวพันครา
ด่วนพ้อ
เยียวชายชั่วหลงมา
แลว่า ไส้พ่อ
ผิดเพื่อบเห็นน้อ
โทษข้าขอษมา ฯ
    o  เยียวเห็นแลเคียดไส้
ใจบุญ พี่เอย
ผิบ่เห็นฤๅฟุน
เท่าเผ้า
ฟังอ่อนอมฤตฉุน
ใจชื่น ชมนา
ได้กล่าวผิดใจเจ้า
จุ่งเจ้าอดออม ฯ
    o พี่ขุนจะอาบน้ำ
เชิญลง อาบรา
ลงอาบในสระสรง
สว่างร้อน
ขัดสีธุลีผง
สะเหงื่อ ไคนา
แล้วเก็บฝักบัวปล้อน
เปลือกสิ้นกินพลาง

ร่าย
    o สองนายฟังสองนาง ผลัดผ้าพลางลงอาบ ทำสุภาพลเมียด คำลเอียดเอาใจ เผืออาบในสระแล้ว เสมออาบน้ำทิพยแก้ว แลน้อง ณ หัว พี่เอย ฯ

โคลง ๔
    o กินบัวอร่อยโอ้
เอาใจ บารนี
สโรชข่าวฉันใด
ใคร่รู้
เชิญพี่จุ่งไปใน
บัวฝ่าย นั้นนา
ได้อมฤตรสสู้
อย่าแล้ไปสวรรค์ ฯ
    o แม่โรยรักอย่าได้
โรยใจ หนึ่งรา
นำแขกเราไปใน
ฝ่ายนั้น
จะเก็บจะกินใด
โดยท่าน เถิดแม่
เจ้าช่วยเก็บให้หั้น
จุ่งให้เต็มใจ ฯ
    o นางโรยนางเรียกด้วย
คำงาม
ขวัญอ่อนดังขวัญกาม
ยั่วแย้ม
ใบบัวหนั่นหนาตาม
กันลอด ไปนา
หอมกลิ่นบัวรสแก้ม
กลิ่นแก้มไกลบัว ฯ
    o ใบบัวบัวข้าขอบ
ใจบัว
ดอกดั่งจะหัวรัว
เรียกเต้า
เชยชมภิรมย์ชัว
ชมซาบ บัวนา
ถนัดดั่งเรียมชมเจ้า
พี่เหล้นกับตน ฯ
    o บัวนมบัวเนตรหน้า
บัวบาน
บัวกลิ่นขจรหอมหวาน
รสเร้า
บัวสมรละลุงลาญ
ใจบ่า นี้นา
บัวบาทงามจวบเท้า
เกศแก้วงามจริง ฯ
    o โกมุทกาเมศแก้ว
โกมล พี่เอย
หอมกลิ่นจงกลกล
กลิ่นแก้ว
จงกามินีปน
รสร่วม กันนา
จงกอบอย่ารู้แคล้ว
ก่อเกื้อกรีฑา ฯ
    o สนุกบัวซ้อนดอก
บัวพระ พี่นา
ปลาช่อนปลาไส้สระ
ดอกไม้
สลิดโพตะเพียนพะ
กันชื่น ชมนา
พรวนเพรียกแนมหลิ่งไส้
เหยื่อหย้ามฟูมฟอง ฯ
    o สนุกข้างนี้แนบ
จอมใจ พี่เอย
สองสนุกกันใน
ฝ่ายนั้น
ทำขวัญสนุกใด
จักดุจ นี้นา
หนีซอกซอนซ้ำหั้น
เชิดชู้เทียมรงค์ ฯ
    o สรงสนุกน้ำแล้วกลับ
สนุกบก เล่านา
สองร่วมใจกันยก
ย่างขึ้น
ขึ้นพลางกอดกับอก
พลางจูบ
สนุกดินฟ้าฟื้น
เฟื่องฟุ้งฟองกาม ฯ
    o สองนางนำแขกขึ้น
เรือนสวน
ปัดฟูกปูอาสน์ชวน
ชื่นชู้
สองสมพาสสองสรวล
สองเสพย์
สองฤดีรสรู้
เล่ห์พร้อมเพรียงกัน ฯ
    o เสร็จสองสมพาสแล้ว
กลกาม
สองอ่อนสองโอนถาม
ชื่อชู้
สองมาแต่ใดนาม
ใดบอก ราพ่อ
ให้แก่สองเผือรู้
ชื่อรู้เมืองสอง ฯ


ร่าย
    o สองนายฟังสองนาง แสร้งบอกพรางบบอกชื่อ เผือนี้ชื่อเจ้ารามรัตน์ นัดกันมาจะค้า พลัดมาท่าทางทบ พอประสบเจ้าพราหมณ์ ทรงนามเจ้าศรีเกษ ใคร่เห็นประเทศมาด้วย พอประสบหน้าสร้วย พี่แล้จอมสมร ฯ

ร่าย
    o เผืออยู่ในรมยนคร มโนหรราชธานี บุรีรมย์บอกแจ้ง จะอยู่ด้วยกล้องแกล้ง แต่นี้ฤๅไป จากเอย ฯ

โคลง ๒
    o สองตกใจละลั้ง
ละเลิดผิดอันตั้ง
ต่อรื้อฉันใด ฯ

    o ธมาในเมืองนี้
มีเครื่องค้ามากี้
สิ่งข้าขอถาม ฯ


โคลง ๓
    o ขุนนางอยู่ไกลกัน
บ่ทันนัดกันได้
สองแม่ถามไจ้ไจ้
สะทื้นสะเทิ้นไปมา ฯ

โคลง
    o บอกเร็วราเครื่องค้า
บบอกได้อึหน้า
ใครให้ราหัว ฯ

    o พรางตัวเองดั่งนี้
หน้าใช่หน้าสับปลี้
มาไขว่ถ้อยเอาเผือ ฯ


ร่าย
    o เครื่องค้าเหลือผู้ซื้อ กะหมั่ง
สินตัวยื้อมิถึง กะหมั่ง
มิบอกจริงบอกพราง กะหมั่ง
ทรงขุนนางอะเคื้อ กะหมั่ง
เนื้อชาววังใช่ช้า โฉมใช่โฉมคนค้า หน้าใช่หน้ากริกกริว ฯ













เชิญพระลอสู่สวนหลวง

     นายแก้ว นายขวัญบอกความจริง จึงไปเชิญพระลอเข้าพักยังสวนหลวง
_____________________________________

โคลง
    o มาจะหัวให้หายหิวอยากเข้า
เชิญบอกอันจริงเจ้า
แก่น้องอย่าอำ
หนึ่งรา ฯ
    o สองสนองคำอ่อนพร้อง
จะบอกจริงแก่น้อง
อย่าเย้นหยันตู ฯ

    o พระภูธรอยู่เกล้า
ลอราชพระเสด็จเต้า
เผือพี่เลี้ยงมาตาม ฯ

    o ขุนงามบอกข่าวไท้
เสมอดั่งสองนางได้
ผ่านเฝ้าไอศวรรย์ ฯ


โคลง ๔
    o ตวันเจียนจากฟ้า
มามือ
จักใคร่ถือเดือนถือ
ก็ได้
เมรุทองละอองปือ
ปือรอด ไปนา
ขอท่านเชิญท้าวไท้
ธิราชเจ้าเสด็จมา ฯ
    o พระเสด็จมาอยู่ด้าว
แดนใด พี่เอย
มาอยู่ในสวนใคร
ใคร่รู้
พระองค์ท่านเสด็จใน
สวนเปล่า เขานา
พระเปลี่ยวบมีผู้
เพื่อนไท้เสด็จเดียว ฯ
    o ตีอกออกปากโอ้
พระภู เบศร์เฮย
มาอยู่ฉันใดดู
ละห้อย
บเคยยากอกตู
จักหว่า แลพ่อ
โหยสอื้นค้อยค้อย
คร่าวน้ำตาไหล ฯ
    o เอนดูสองท่านผ้าย
ไปพลัน
ถึงบาทบงกชคัล
เคี่ยมไหว้
ขอเชิญปิ่นไอศวรรย์
เสด็จยาตร มานา
เผือจะเชิญสองไท้
ธิราชพู้นมาพลัน ฯ
    o แต่จักท่าไหว้บาท
บงกช
น้อมศิรามพุชจรด
กึ่งเกล้า
ขอรับอมฤตรส
พจนาตถ์ ไปนา
ถึงพระนุชน้องเหน้า
ท่านถ้าฟังสาร ฯ
    o สองนายกรกอดเกี้ยว
สองนาง
มือสอดเสียดเอวบาง
ลูบท้อง
พิศพลางจูบชมพลาง
เรียมสั่ง สองแม่
มิใคร่ไคลคลาศน้อง
หนึ่งเล้ยกับตน ฯ
    o สองนางซบแนบเนื้อ
สองนาย
พระลูกเอยจักผาย
คลาดแคล้ว
พระไปจากเสมอตาย
ทีหนึ่ง แลพ่อ
รักเร่งมาพลันแก้ว
ช่วยน้องอย่านาน ฯ
    o ไปสองสามย่างแล้ว
เหลียวมา เล่านา
เจ้าพี่เอยเรียมคลา
คลาศแคลัว
เผือไปแต่ตัวหา
จอมราช ไส้นา
ใจอยู่เชยชมแก้ว
พี่ไส้กับตน ฯ
    o เผือข้านับอยู่ไส้
ขุนงาม ลูกเอย
อยู่แต่ตัวใจตาม
ท่านแท้
ไปมาอย่านานทราม
รักท่วม เราเฮย
เชิญเร่งเร็วพลันแม้
อยู่ช้าเผือตาย ฯ

โคลง
    o สองนายไปบมิช้า
ถึงสมเด็จเจ้าหล้า
กราบเกล้าทูลสาร ฯ

    o ทูลอาการทุกข้อ
บรรยายแต่ต้นหน้อ
มาถี่ถ้วนความใน ฯ


โคลง ๔
    o เผือข้าพบพี่เลี้ยง
สองศรี
ใจจอดจอมกษัตรีย์
อยู่เกล้า
ขอเชิญปิ่นภูมี-
ศวรราช
จงบพิตรพระเจ้า
อย่าช้าเสด็จจร ฯ
    o พระลอลีลาศคล้อย
ไคลคลา
งามดุจสีหลีลา
จากถ้ำ
สองนางอยู่คอยหา
เห็นราช มานา
ลุกแล่นรับแลล้ำ
หยาดฟ้าลงดิน ฯ
    o สองถึงสองกราบไหว้
บทมาลย์
เชิญบพิตรภูบาล
อยู่เกล้า
ยังรมยพิมานสถาน
ประพาส พระเอย
เรือนสำราญน้องเหน้า
ท่านไท้ทั้งสอง ฯ

โคลง ๒
    o พระลอสนองพี่เลี้ยง
สองพระนุชเนื้อเกลี้ยง
สุขอยู่รื้อฉันใด ฯ

    o สองจอมใจอ่อนไท้
องค์บไข้ใจไข้
ละห้อยโหยหา
ท่านนา ฯ




คารมพระลอ

     นางรื่น นางโรยเข้าเฝ้าพระลอ พระลอแสดงคารมมหากาฬ ฝากถ้อยไปยังสองศรี พระพี่เลี้ยงนำความไปแจ้งพระเพื่อน พระแพง ซึ่งร้อนรุมอยู่รอท่า
     เปนอีกตอน ๑ ที่แสดงให้ประจักษ์ถึงพระอัจฉริยภาพของผู้ทรงนิพนธ์เรื่องพระลอนี้ ในการใช้ข้อความแต่สั้นๆเล่าเรื่องราวมากมาย โดยเก็บรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆได้อย่างครอบคลุมชัดเจน
_____________________________________

ร่าย
    o พระราชาลีลาศ พระบาทขึ้นเรือนสอง กุณฑีทองน้ำหอม ถนอมล้างพระบาทยุคล พิมลพัสตเช็ดบาท เหยียบผ้าลาดเสด็จดล บนบรรยงกไสยาสน์ เสด็จเหนืออาสน์อิงองค์ พระบาทบงกชพัก ทักปราไสสองนาง สองไหว้พลางจึ่งทูล ข้าแต่นเรสูรอยู่เกล้า พระเจ้าเคยขึ้นช้างลงม้า คานหามท่ารับราช ผ้าลาดแล้วเกือกทอง รองพระบาทซ้ำซ้อนอ่อนเรียบ ดังฤๅมาเหยียบดินเดินเพียงไพร่ ไต่ทางป่าท่าดงรก อกเผือข้าดั่งจะคราก อ้าลำบากพระองค์ ซบเศียรลงกราบไหว้ พระบาทฤๅมาได้ ยากพ้นประมาณ ดังนี้ ฯ

โคลง ๒
    o ภูบาลสนองพี่เลี้ยง
สองพี่ปรานีเพี้ยง
พระญาติผู้พึงใจ ฯ

    o ยากนักใดดุจด้วย
เพราะใคร่เห็นหน้าสร้วย
สองอ่อนท้าวแลนา ฯ

    o ปรานีราอย่าช้า
รักเร่งให้เห็นหน้า
หน่อท้าวทั้งสอง ฯ


โคลง ๔
    o พระทองเสด็จอยู่นี้
อย่าคลา
สองพี่ขุนรักษา
อยู่เกล้า
เผือข้าชุลีลา
พระบาท แลพ่อ
หับกุญแจเร้นเจ้า
แผ่นหล้าลับองค์ ฯ
    o หัวอกจักครากแล้
เขือเห็น
นับอยู่ในใจเปน
ดั่งบ้า
สองเขือพี่อย่าเย็น
ใจเร่ง ไปรา
เอาข่าวถึงน้องหน้า
หนุ่มเจ้าจอมสมร ฯ
    o แม้สองเจ้าตั้งใคร่
เห็นกัน นาพี่
เชิญพระนุชมาพลัน
อย่าช้า
แม้นานอ่อนฤๅทัน
เห็นชีพ เรียมเลย
ฝากแต่พระศพถ้า
อ่อนให้เผาผี ฯ
    o สองไหว้พระบาทแล้ว
สองลา
สองสั่งสองนายตา
ค่อยเคล้า
ตาสองลอบแลหา
เมียงม่าย กันนา
จวนจวบตาท้าวเจ้า
ลอบต้องตาเขา ฯ
    o สองนางจรจากห้อง
โหยหวน สวาทนา
เมียงแต่หางตาสรวล
สั่งชู้
สองนายลูบอกครวญ
ครางแต่ ใจนา
เจียรจากดั่งนี้ผู้
อื่นนั้นฤๅมี ฯ

ร่าย
    o ข้าลีลาถึงนอก ครั้นออกแล้วทั้งสอง กุญแจทองใส่ทวาร เอาลูกดาลไปด้วย อิ่มอกย้วยไคลคลา ลีลาขึ้นช้างผ้าย คลับคล้ายเข้าทวารเวียง จิตต์จ่อเมียงสองเจ้า ลงช้างเข้ายังวัง ทอดตายังปราสาท เห็นสองราชกษัตรีย์ ในช่องสีหบัญชร ดุจอัปสรสู่หล้า เยี่ยมหน้าดุจดวงเดือน เหมือนแว่นฟ้าทั้งคู่ ต่างตาดูอยู่คอยทาง เห็นสองนางพี่เลี้ยง หน้าชื่นสดใสเพี้ยง พ่างท้าวเสด็จมา

โคลง ๒
    o มาสองราจะร้อง
ถามเถิดฤๅพระน้อง
จุ่งได้แรงใจ
หนึ่งรา ฯ
    o คิดนึกไปชอบเหรื้อง
ความรั่วรู้ทุกเบื้อง
พระย่ารู้ฤๅดี ฯ

    o มาจะตีตนตายจุ่งแล้ว
สองพระพี่เลี้ยงแก้ว
ยกย่างช้าเยียใด
ดั่งนี้ ฯ
    o ทวารวังในว่าใกล้
ฤๅแลวันนี้ไส้
ขยดออกรื้อดูไกล
บารนี





ร่าย
    o ถึงบันไดสองขึ้น แลนา
ถึงพ่างพื้นปราสาท แลนา
เข้าใกล้บาทยุคล แลนา
ไหว้เจ้าตนทูลข่าว แลนา
รับขวัญยอมือไหว้ บัดนี้ขวัญท้องไท้ มาสู่แล้วณหัว พี่เอย ฯ
 

พระเพื่อนพระแพงสู่ตำหนักสวนหลวง

     พระเพื่อน พระแพงรับรู้ความแลถ้อยคำพระลอจากนางรื่น นางโรย แล้วไปขออนุญาตพระย่าเที่ยวเล่นในอุทยานหลวง
พระย่าชื่นชมแลย้ำเตือนครรลองครองตน
     นางโรยนางรื่นจัดแจง พระเพื่อน พระแพงขึ้นพระตำหนักซึ่งพระลอแลพี่เลี้ยงเร้นรอท่าอยู่ !
ปรัด (ปะหรัด) = แต่ง(ก.)
เทียร = ย่อม(ก.)
_____________________________________

โคลง
    o จอมขวัญพระพี่เอ้ย
บุญสอง
โฉมราชงามคือทอง
แท่งแท้
คือเทพดาผยอง
มาสู่ พระนา
ในโลกนี้สุดแล้
แต่ท้าวองค์เดียว ฯ
    o พระสอนพระสั่งข้า
พระศรี พี่เอย
ผิแลพลันพบธี-
เบศร์ไท้
แม้นานแต่พบผี
จอมราช แลแม่
ฝากแต่พระศพไว้
เถิดให้เราเผา ฯ
    o พี่เอยแก้วฟ้าหยาด
มามือ นาพี่
รักยิ่งชีพิตฤๅ
ใคร่แคล้ว
ครั้นด่วนนักจักฦๅ
ความเล่า แลพี่
ลาย่าเปนเจ้าแล้ว
ด่วนได้โดยใจ ฯ
    o สองท้าวยังย่าไท้
ทูลทรง
พระบาทสองศรีผจง
ใส่เกล้า
สองเสด็จแนบแนมองค์
อิงแท่น
ละเลียนสองเฟี้ยมเฝ้า
ย่าต้องติดใจ ฯ
    o ย่าชมหลานแก้วยอด
เยาวมาลย์
สองดุจบงกชบาน
ใหม่หน้า
สองศรีล่ำเภาพาล
เพ็ญภาค กูเอย
นวดย่าได้แรงอ้า
อ่อนรู้ถือถนอม ฯ
    o ชูหน้าสองหนุ่มหน้า
เชยชม
สองอ่อนงามสระสม
ใช่น้อย
ใจดีอ่อนอุดม
ใครคู่ สองนา
สองนวดฟั้นค้อยค้อย
ย่าได้แรงรมย์ ฯ
    o อย่ากดใจฟั้นย่า
นานนัก
อุตส่าห์เยียวสองภักดิ์
ใฝ่ไข้
สองนางรื่นโรยรัก-
ษาอย่า ลืมนา
เตือนอ่อนสรงเสวยไล้
ลูบแป้งผัดผิว ฯ
    o เผือข้าแฝงบาทไหว้
บทมาลย์
สุขสิ่งใดปูนปาน
เปรียบได้
พิศพักตรดุจบัวบาน
ฤๅใคร่ คลายเลย
เสมออมฤตไล้
ลูบแล้ลืมเมือ ฯ
    o สองเจ้ารักย่าให้
ติดใจ บารนี
อ้าอีกฟังเสียงใส
อ่อนพร้อง
สองศรีกล่าวเสนาะใด
จักดุจ นี้นา
เสมออมฤตต้อง
ย่าได้แรงจริง ฯ
    o ย่ารักมิใคร่ให้
ไกลตัว
เยียวย่าเตือนเพราะกลัว
เกลือกไข้
ย่าสงวนยิ่งสงวนหัว-
ใจย่า ไส้นา
เทียรย่าเตือนไจ้ไจ้
อย่าน้อยใจเขือ ฯ
    o อิริยาบถสี่ไส้
สงวนองค์ อ่อนเอย
นอนนั่งยืนเดิรจง
อย่าเว้น
สองศรีสมบูรณ์บง-
กชมาศ กูเอย
นอนนั่งยืนเดิรเหล้น
แต่งให้เสมอก้น ฯ
    o เผือข้ามิใคร่ผ้าย
ไปไกล ท่านนา
ตัวจากใจอาไลย
ท่านไท้
ขอลาบพิตรไป
ประพาส พระเอย
สมสนุกเล่นไหล้
แหล่งสร้อยสวนขวัญ ฯ
    o เชิญสองพระพี่น้อง
เสด็จไป
สรงสระพลางชมไพร
ดอกไม้
ยามเย็นจึ่งคลาไคล
ยูรยาตร มานา
สองราชฟังแล้วไหว้
ย่าเจ้าลาเมือ ฯ

โคลง
    o ยินดีเหลือที่อ้าง
เราจะพบเจ้าช้าง
ธิราชแล้เต็มใจ
บารนี ฯ

ร่าย
    o คืนเข้าในปราสาท เสร็จสองราชเสด็จสรง แล้วสองทรงพระปรัด ผัดพักตร์ดุจดวงเดือน เกล้าเกศเหมือนสาวสวรรค์ นุ่งแพรพรรณลายเลิศ พพรายพริ้งเพริศประไพ สไบสมบูรณ์บรรจง ทรงเครื่องเสร็จยูรยาตร ลีลาศดุจอัปสร ทวยทอดกรนวยนาฎ ถึงเกยมาศบรรยง สองเสด็จทรงกรินี มีจำลองจำหลักลาย รูปสัตว์กลายช้อยชด อลงกฎกูบแก้ว ช้างชื่นงามแพร้วแพร้ว เครื่องช้างงามยง ยิ่งนา ฯ

ร่าย
    o ยยับธงมยุรฉัตรทอง รังรองกรรชิงรัตน์ พัดโบกพัดจามร สาวสลอนโดยเสด็จดาษ พี่เลี้ยงราชตามกษัตริย์ ไปตระบัดบหึง ถึงประตูอุทยาน คานหามทองรับราช ลีลาศเทียบมนเทียร พี่เลี้ยงเจียนใจแกว่น แล่นก่อนไขประตู ส่วนพระภูธรบรรจง ทรงมกุฎภูษา พัสตราภรณ์อจินต์ งามเงื่อนอินทรหยาดฟ้า เร้นอยู่เรือนรัตน์ถ้า แนบเนื้อสองสนอง ฯ

ร่าย
    o สองนายซ่อนข้างแท่น นางรื่นแล่นปูอาสน์ ให้สองราชเสด็จออก นอกให้ข้าไทเฝ้า ส่วนชาวเจ้ากำนัล เคียมคัลโดยระบอบ นางโรยนอบนบว่า ส่วนพระย่าธสั่งไส้ ให้เผือข้าหมั่นตัก เตือนสองลักษณ์ไสยาสน์ สองนางนาฎใส่กล ว่าบัดเดี๋ยวดลเทิญจะนอน นางรื่นกรประนมไหว้ ทูลว่าพระย่าไท้ธิราช พระบาทสั่งทุกอัน ชาวกำนัลเปนพยาน มินานด่วนลืมคำ ธจะจำตูต้องโทษโพย นางโรยเร่งช้กม่าน เชิญสองท่านเสด็จเข้า ส่วนชาวเจ้ากำนัลนั้น ครั้นจะอยู่ท้าวธจะมิหลับ ขับกันลงเล่นไหล้ ชมดอกไม้วัลย์เครือ แต่สองเผือนี้จะเฝ้า สองท้าวเจ้าจอมราช ครั้นฝูงนางคลาศคลาลงแล้ว สองพระพี่เลี้ยงแก้ว หับถี่ถ้วนทุกทวาร ฯ

พระเพื่อน พระแพงพรั่นกระดาก
พระลอ พระเพื่อน พระแพง พบพักตร์
โฉมงามสามแผ่นแพ้

     พระเพื่อน พระแพงกระดากอายด้วยมิเคยสู่ชาย ให้นางรื่นนางโรยสอน.. ก็แลเรื่องเช่นนี้ที่ไหนจะสอนกันได้ ต่อเวลามาถึง ทีจะเปนย่อมเปนเอง... " น่อยหนึ่งพระจักได้      เล่ห์นั้นเปนเอง "
ตอนนี้ได้แยกสีคำขานไว้ให้เห็นโดยเด่นชัด
     ชมโฉมพิลาศล้ำของสามองค์ ผ่านถ้อยพระพี่เลี้ยง
     พี่เลี้ยงเชิญสามราชสู่ไสยา แล้วสู้ทนข่มไฟราคะตน เสงี่ยมเฝ้าแต่ภายนอก..
" รัญจวนสมรหมื่นกลั้น     เพราะเพื่อภักดีหมั้น     จึ่งกลั้นใจคง "
____________________________


โคลง ๒
    o มินานสองพี่เลี้ยง
ไหว้บาทบงกชเกลี้ยง
เชิญอ่อนท้าวเสด็จใน ฯ

    o สองอ่อนใจแจ่มฟ้า
ฟังพี่เลี้ยงเชิญช้า
ซ่อนช้าอายใจ ฯ


โคลง ๔
    o พี่เอยแต่น้อยเกิด
ตนมา
ยังไป่เคยเดียงสา
สักน้อย
จักไปดั่งฤๅนา
วานช่วย ริรา
อายเร่งอายค้อยค้อย
หนึ่งไส้เผือกลัว ฯ
    o ณหัวเจ้าข้าใช่
เด็กเลย
แม้บ่เคยจำเคย
จึ่งได้
พระทองแก่เรียมเอย
อย่าเหนี่ยว ราแม่
ฤๅบ่เอนดูไท้
ธิราชแล้ณหัว พี่เอย ฯ
    o พระลอแฝงม่านเข้า
มาฟัง
ฟังอำเภอสองยัง
หนุ่มแท้
พระเสด็จนั่งแนบหลัง
สองอยู่ ไส้นา
สองไป่รู้ยังแก้
พี่เลี้ยงไปมา ฯ
    o พี่เอยรักท้าวยิ่ง
หัวใจ นาพี่
เจ็บบ่เคยฉันใด
ดั่งนี้
เผือคิดเร่งเดียงใน
ใจยาก จริงนา
วานพี่ทั้งสองชี้
เล่ห์ให้เผือเห็น ฯ
    o สองฟังสองค่อยยิ้ม
ผินสรวล
ใครห่อนสอนพระอวร
อ่อนได้
วันสองแรกรักครวญ
ถึงราช นั้นนา
ใครสั่งสอนสองให้
ละห้อยโหยหา ฯ
    o มิสอนก็อย่าร้า
มาหยัน อีกรา
มิเอนดูอกกัน
ดั่งนี้
เห็นเดือนตวันวัน
คืนก่อน เผือนา
ถามว่าบรู้ผี้
ว่ารู้ฤๅถาม ฯ
    o พระเอยจะบอกได้
ฉันใด
พระจักเคียงถนัดใน
ที่ไท้
มินานอย่าอาไลย
เลยราช
น่อยหนึ่งพระจักได้
เล่ห์นั้นเปนเอง ฯ
    o พระลออดบได้
ขิกหัว
สองนาฎตกใจกลัว
สดุ้ง
พระพักตรดุจดวงบัว
บานร่อ กันนา
เผยม่านแพรพรรณวุ้ง
ออกให้เห็นองค์ ฯ
    o สองเห็นโฉมเจ้าแผ่น
ภูวดล
งามเงื่อนทินกรกล
แว่นฟ้า
ลืมอายอ่อนลืมตน
ตาต่อ พระนา
พิศบ่พรับโอ้อ้า
เทพไส้ยาไฉน ฯ
    o ดำรงใจได้อ่อน
อายซบ อยู่นา
สองบังคัลเคารพ
กราบไหว้
โฉมสองชื่นตาสบ
ใจราช แลนา
พิศพี่พิศน้องไท้
ท่านท้าวลืมตน ฯ
    o บัวทองเด็ดแต่น้ำ
เอามา แลนา
แลว่าดวงดารา
หยาดฟ้า
ฤๅจันทรจากเวหา
หาพี่ พระเอย
เรียมเร่งคิดหน้าหน้า
หนุ่มหน้าติดใจ ฯ
    o สองนาฎพิศราชรื้อ
วางตา
จอมราชพิศพักตรา
อ่อนไท้
บวางเนตรเลยนา
บานร่อ สองรา
สองนาฎไหว้แล้วไหว้
เล่าไหว้บทมาลย์ ฯ
    o นางโรยนางรื่นไหว้
พิศภู เบศร์เฮย
พิศอ่อนสองศรีตรู
เตรียบเฝ้า
แลนางก็ลืมดู
จอมราช
แลราชลืมดูเจ้า
พี่น้องทั้งสอง ฯ
    o พิศไท้ไท้ว่าไท้
ทินกร
พิศอ่อนคือศศิธร
แจ่มฟ้า
พิศดูอิ่มอกอร
ใดดั่ง นี้นา
เดือนยแย้มแย้มหน้า
ออกรื้อฉันใด ฯ
    o เพื่อนโรยวานช่วยตั้ง
ตาดู หนึ่งรา
เราว่าพระเราตรู
ยิ่งผู้
โฉมพระพี่มาชู
งามเร่ง งามนา
ทุกเทพอันรอบรู้
แต่งท้าวทั้งสาม ฯ
    o พิศดูสิไป่ได้
วางตา
สามแผ่นภพฤๅหา
ดุจได้
บุญเราบ่านี้นา
นางรื่น กูเอย
เราจึงเห็นสามไท้
ธิราชผู้มีบุญ ฯ
    o สองนายเจ้าน้องอยู่
ไหนมา ดูรา
มาช่วยพิศพักตรา
อยู่เกล้า
สุดใจบ่านี้นา
เฉลิมโลกย์ แลเฮย
สามบพิตรพระเจ้า
พี่น้องงามสม ฯ

ร่าย
    o สองนางชมบมิวาย ส่วนสองนายผู้เชี่ยวชาญ ค่อยก้มกรานเข้าไป นั่งแต่ไกลกราบบาท ไท้ธิราชสามกษัตริย์ ชรดัดนิ้วประนม บังคมเคารพราช ชมโฉมนาฎทั้งสาม งามติดตาติดใจ ในแผ่นดินใต้ฟ้า เห็นแต่พระเจ้าหล้า พี่น้องทั้งสาม บารนี ฯ

โคลง ๔
    o งามยงงามยิ่งแม้
แมนมา แต่งฤๅ
โฉมระทวยทอตา
แหล่งหล้า
สมนักบ่านี้นา
สรบ่า นี้นา
สดกว่าสดโอ่อ้า
อ่าโอ้เอาใจ ฯ
    o พี่เลี้ยงทั้งสี่ไหว้
สามกษัตริย์
เชิญบาทบงกชรัตน์
อยู่เกล้า
เสด็จยังผธมสวัสดิ์
ไสยาสน์ พระเอย
เยียวเหนื่อยพระองค์เจ้า
พี่น้องทั้งสาม ฯ
    o พระลอลีลาศฟ้า
ดินไหว
สองนาฎโดยเสด็จไตร
แผ่นพื้น
สามกษัตริย์ทอดกรไกว
เงยง่า งามนา
โฉมดุจเดือนดาวขึ้น
ส่องฟ้าดินบน ฯ
    o นางโรยนางรื่นร้าง
บทรัช
เช็ดบาททั้งสามกษัตริย์
ใส่เกล้า
เชิญเสด็จภิรมย์สวัสดิ์
ไสเยศ
สองอ่อนอเคื้อเฝ้า
อยู่เพี้ยงสาวสวรรค์ ฯ
    o พี่เลี้ยงปิดม่านแล้ว
รับขวัญ ท่านนา
ขวัญอ่อนอย่าไกลกัน
กับไท้
ขวัญสองแม่คือวัลย์
เวียนรอบ พระนา
ขวัญราชคงคือไม้
มาศเกี้ยววัลย์กรอง ฯ
    o สองนางลาราชไหว้
บทมาลย์
ถึงนอกสองหับทวาร
ท่านไว้
หับแล้วบ่ทันนาน
ยังพี่ นายนา
นั่งแต่ไกลกามไหม้
สวาทเพี้ยงไฟฟอน ฯ





โคลง ๒
    o รัญจวนสมรหมื่นกลั้น
เพราะเพื่อภักดีหมั้น
จึ่งกลั้นใจคง ฯ

    o รู้อายองค์ยากแท้
ผิบ่รู้อายแล้
ง่ายพ้นประมาณ ฯ

    o เรือนสำราญอยู่เหล้น
เร่งว่าร้ายแรงเต้น
โลดร้ายฤๅอาย ฯ

    o ทั้งหลายชี้กำด้น
ทำบรู้รุกร้น
ฝ่ายร้ายฤๅแคลง ฯ


โคลง ๔
    o แรงรักแรงราคร้อน
รนสมร
ยงยิ่งเปลวไฟฟอน
หมื่นไหม้
มนเทียรปิ่นภูธร
เปนที่ ยำนา
ขืนข่มใจไว้ได้
เพื่อตั้งภักดี ฯ
    o เรานี้เราเผ่าผู้
ภักดี
ผิดเท่าธุลีกลัว
เกลียดใกล้
ผิผิดกึ่งเกศี
แหนงว่า ตายนา
ดีกว่าเปนคนให้
ท่านชี้หลังตน ฯ


บทอัศจรรย์
ครรลองกาม สามเสพสามสมพาส

o ดุจสารเมามันบ้า
งาไล่แทงงวงคว้า
อยู่เคล้าคลุกเอา ฯ

____________________________


โคลง ๒
    o สี่คนคิดชอบถ้อย
สอนสั่งกันค้อยค้อย
สว่างร้อนไฟกาม ฯ

    o ส่วนสามกษัตริย์แก่นท้าว
กรโอบองค์โน้มน้าว
แนบเนื้อเรียงรมย์ ฯ

    o เชยชมชู้ปากป้อน
แสนอมฤตรสข้อน
สวาทเคล้าคลึงสมร ฯ

    o กรูเกี้ยวกรกอดเกื้อ
เนื้อแนบเนื้อโอ่เนื้อ
อ่อนเนื้อเอาใจ ฯ

    o พักตราใสใหม่หม้า
หน้าแนบหน้าโอ่หน้า
หนุ่มหน้าสรสม ฯ

    o นมแนบนมนิ่มน้อง
ท้องแนบท้องโอ่ท้อง
อ่อนท้องทรวงสมร ฯ

    o สมเสน่หอรใหม่หมั้ว
กลั้วรสกลั้วกลิ่นกลั้ว
เกลสกลั้วสงสาร ฯ

    o บุษบาบานคลี่คล้อย
สร้อยแลสร้อยซ้อนสร้อย
เสียดสร้อยสระศรี ฯ

    o ภุมรีคลึงคู่เคล้า
กลางกมลยรรเย้า
ยั่วร้องขานกัน ฯ

    o สรงสระสวรรค์ไป่เพี้ยง
สระพระนุชเนื้อเกลี้ยง
อาบโอ้เอาใจ ฯ

    o แสนสนุกในสระน้อง
ปลาชื่นชมเต้นต้อง
ดอกไม้บัวบาน ฯ

    o ตระการฝั่งสระแก้ว
หมดเผ้าผงผ่องแผ้ว
โคกฟ้าฤๅปูน ฯ

    o บุญมีมาจึงได้
ชมเต้าทองน้องไท้
พี่เอ้ยวานชม
หนึ่งรา ฯ
    o พระเพื่อนสมสมรแล้ว
ลอราชเชยชมแก้ว
แก่นไท้แพงทอง
เล่านา ฯ
    o ละบองบรรพหลากเหล้น
บเหนื่อยบได้เว้น
เหิ่มชู้สมสมร ฯ

    o ดุจอัสดรหื่นห้า
แรงเร่งเริงฤทธิ์กล้า
เร่งเร้งฤๅเยาว์ ฯ

    o ดุจสารเมามันบ้า
งาไล่แทงงวงคว้า
อยู่เคล้าคลุกเอา ฯ

    o ประเล้าโลมอ่อนไท้
แก้วพี่เอยเรียมได้
ยากด้วยเยาวมาลย์ ฯ

    o เอนดูวานอย่าพร้อง
เชิญพระนุชนิ่มน้อง
อดพี่ไว้เอาบุญ
ก่อนเทิญ

โคลง ๔
    o พระคุณพระพี่พ้น
คณนา
พระเอนดูนุชรา
ท่านไท้
เผือข้าไป่เดียงสา
สักหยาด พระเอย
พระค่อยถนอมน้องไว้
เพื่อนท้าวใจบุญ ฯ
    o บเปนใดเจ้าพี่
อย่าแคลน
รักแม่สุดดินแดน
กว่าฟ้า
เรียมสงวนพระนุชแสน
สงวนยิ่ง ตัวนา
ยามหนึ่งบเห็นหน้า
อ่อนท้าวเรียมตาย ฯ
    o บมลายสมรเร่งเร้ง
ฤทธิรงค์
สองอ่อนระทวยองค์
ละห้อย
ความรักดุจทิพยสรง
โสรจชื่น
บัดชื่นบัดเศร้าสร้อย
สร่างสร้อยสรดใส ฯ
    o สะเทือนฟ้าฟื้นลั่น
สรวงสวรรค์
พื้นแผ่นดินแดยรร
หย่อนไส้
สาครคลื่นอึงอรร-
ณพเฟื่อง ฟองนา
แลทั่วทิศไม้ไหล้
โยกเยื้องอัศจรรย์ ฯ
    o ขุนสีห์คลึงคู่เคล้า
สาวสีห์
สารแนบนางคชลี
ลาสเหล้น
ทรายทองย่องยงกรี-
ฑาชื่น ชมนา
กะต่ายกะแตเต้น
ตอบเต้าสมสมร ฯ
    o ทินกรกรก่ายเกี้ยว
เมียงบัว
บัวบ่บานหุบกลัว
ภู่ย้ำ
ภุมรีภมรมัว
เมาซราบ บัวนา
ซอนนอกในกลีบกล้ำ
กลิ่นกลัวเกสร ฯ
    o บคลาไคลน้อยหนึ่ง
ฤๅหยุด อยู่นา
ยังใคร่ปองประติยุทธ์
ไป่ม้วย
ปรานีดอกบัวบุษป์
บชื่น ชมนา
หุบอยู่บบานด้วย
ดอกสร้อยสัตบรรณ
no image
  • Blogger Comments
  • Facebook Comments

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

Top