ท้าวหมันหยาให้ไปยอมยกนางจินตะหราให้ปันหยี
|
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
ท้าวหมันหยาได้ฟังแจ้งแถลงไข
|
ให้คิดหวาดหวั่นพรั่นพระทัย
|
จึงดำรัสตรัสไปแก่เสนา
|
ซึ่งข้าศึกฮึกหาญมาทั้งนี้
|
ชะรอยเป็นปันหยีโจรป่า
|
ที่ชาวเมืองเลื่องเล่าลือชา
|
ว่าฆ่าท้าวบุศสิหนาบรรลัย
|
ตั้งแต่สองระดับผู้พี่
|
ก็เกรงกลัวฤทธีไม่ทานได้
|
อ่อนง้อขอขึ้นแก่โจรไพร
|
จึงมิได้เดือดร้อนรำคาญเคือง
|
ฝ่ายระตูอยู่รายทางมา
|
ล้วนเหล่าท้าวพระยาที่ลือเลื่อง
|
ไม่ต่อสู้ปันหยีทั้งสี่เมือง
|
ต่างยอมให้เครื่องบรรณาการ
|
จำเราจะยกธิดาให้
|
เกลี่ยไกล่ผูกรักสมัครสมาน
|
อันจะคิดขึงขังประจัญบาน
|
ไพร่บ้านพลเมืองจะเคืองแค้น
|
แล้วตรัสสั่งดะหมังไปสืบดู*
|
ให้รู้สำคัญจงมั่นแม่น
|
กองทัพยับยั้งอยู่ปลายแดน
|
โยธาหนาแน่นสักเพียงไร ฯ
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ดะหมังเสนาผู้ใหญ่
|
รับสั่งบังคมลาคลาไคล
|
ออกไปจากท้องพระโรงธาร
|
เรียกหาบ่าวไพร่ที่ใช้ชิด
|
เลือกล้วนคนสนิทติดลูกหลาน
|
ขึ้นขี่ม้าเหลืองถูกเครื่องอาน
|
รีบไปปลายด่านพารา ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
|
๏ บัดนั้น
|
หญิงชายชาวเมืองหมันหยา
|
แจ้งว่าโจรไพรใจหยาบช้า
|
ยกมาปลายด่านเวียงชัย
|
ต่างคนหวาดหวั่นครั่นคร้าม
|
เที่ยวซุบซิบสืบความถามไถ่
|
ชาวตลาดเล่าลืออื้อไป
|
ก็ถูกใจคิดกลัวทุกตัวคน
|
เป็นเหล่าเหล่าเข้าประชุมพูดจา
|
ปรึกษาหารือกันสับสน
|
บ้างว่าจะหนีไปให้พ้น
|
เป็นทำวนด้วยลูกเต้าเหย้าเรือน
|
บ้างยักย้ายเงินทองของฝัง
|
มิดชิดปิดบังไม่บอกเพื่อน
|
หมายที่สำคัญไม่ฟั่นเฟือน
|
กลบเกลื่อนเกลี่ยไกล่ไว้ใต้ดิน
|
บ้างแก้ปะวะหล่ำกำไล
|
ที่แต่งใส่ลูกหลานออกเสียสิ้น
|
ทุกข์ร้อนไม่เป็นนอนเป็นกิน
|
แต่เฝ้าผินหน้าปรับทุกข์กัน
|
พวกผู้หญิงสาวสาวเหล่าแม่หม้าย
|
ก็วุ่นวายหวาดผิดคิดพรั่น
|
จะมีผัวกลัวว่าจะไม่ทัน
|
พูดกันว่าจะบวชเป็นชี
|
ลางคนบนบานศาลกล่าว
|
ให้ยายท้าวคนทรงลงผี
|
สงสัยไต่ถามถึงธานี
|
เหตุการณ์ครั้งนี้ดีหรือร้าย
|
บ้างเข้าไม้นาวายาเยียว
|
ทำเหมือนจะไปเที่ยวค้าขาย
|
รู้กันแต่ลูกเมียแม่ยาย
|
ข้าวของถ่อพายก็เตรียมไว้
|
ลางชายได้คู่พึ่งสู่ขอ
|
เข้าหออยู่ด้วยกันใหม่ใหม่
|
พิศดูหน้าเสียแล้วเสียใจ
|
จะพลัดพรากอย่างไรก็ไม่รู้
|
อันชาวพาราประชาชน
|
ต่างคนคิดจะหนีไม่มีสู้
|
ที่ผู้ใหญ่ได้สติดำริดู
|
ยังนั่งอยู่คอยฟังดะหมังมา ฯ
|
ฯ ๒๐ คำ ฯ
|
ช้าปี่
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระทรงโฉมประโลมเสนหา
|
สถิตยังสุวรรณพลับพลา
|
พอเวลาแดดร่มลมชาย
|
จึงชำระสระสรงทรงเครื่อง*
|
อร่ามเรืองเนาวรัตน์จำรัสฉาย
|
กุมกริชยุรยาตรนาดกราย
|
ผันผายออกหน้าพลับพลาชัย ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
๏ ให้ระเด่นสังคามาระตา
|
กับพี่เลี้ยงเสนาน้อยใหญ่
|
รำทวนบนหลังอาชาไนย
|
ศึกษาสอนไว้ให้ชำนาญ
|
อันเหล่าโยธากิดาหยัน
|
หัดกันคนละวงตรงหน้าฉาน
|
เป็นคู่คู่สู้กันประจัญบาน
|
อลหม่านมี่อึงคะนึงไป
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
|
๏ บัดนั้น
|
ประสันตาผู้มีอัชฌาสัย
|
เที่ยวเล่นในป่าพนาลัย
|
แสวงหาต้นไม้ดังจินดา
|
เห็นตะขบข่อยมะขามสามต้น
|
เอนชายชอบกลหนักหนา
|
คนเดียวจะขุดสุดปัญญา
|
หมายตาไว้แล้วก็กลับไป
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
|
๏ พอพบดะหมังมนตรี
|
ยินดีลงนั่งยกมือไหว้
|
แล้วถามว่าสายัณห์ลงไรไร
|
ลุงมาทำไมในป่านี้
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ดะหมังมีใจเกษมศรี
|
จึงแถลงเล่าความตามมี
|
แล้วพากันจรลีรีบมา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment