Latest News

Thursday, July 23, 2009

นิราศสุพรรณ ๓๐๑-๓๕๐

(๓๐๑) ๏ ลูกปัดตัดให้สี่ สิบใบ
เกรี่ยงชอบยอบยิ้มละไม ใส่ข้อ
หมากพลูสู่สมใจา จันอับ พลับเอย
ถามกวั่งนั่งพูดจ้อ จวบแจ้งแสงสูรฯ


(๓๐๒) ๏ รุ่งเช้าเข้าบ้านเกรี่ยง เลี้ยงเหลือ
แกงฟักผักพริกมะเขือ ค่างปิ้ง
อึ่งแย้แช่เขมเกลือ เกลียดขะยั่น กลั้นแฮ
เด็กบ่อชอบลอบทิ้ง ท่วยขว้ำซ้ำแสยงฯ


(๓๐๓) ๏ หญิงชายฝ่ายเกรี่ยงล้อม พร้อมเพรียง
รักหนุ่มอุ้มแอบเคียง ใคร่พร้อง
สาวแก่แม่ม่ายเมียง มุ่งขยิ่ม ยิ้มแฮ
ทักเพรียกเรียกพี่น้อง นั่งเฝ้าเคล้าเคลียฯ


(๓๐๔) ๏ น้อยน้อยคอยหลีกเหลี้ยง เมียงเมิน
หญิงฉุดยุดหยอกเอิญ แอบข้าง
ผลักไสไล่เล่นเพลิน พลอยรรื่น ชื่นเอย
รุมรักชักชวนค้าง คิดหน้าอาไลยฯ


(๓๐๕) ๏ ลูกปัดตัดแจกถั้ว ตัวคน
หมดย่ามตามยากจน จัดให้
ลาจากหยากตามปรน นิบัดหนุ่ม อุ้มเอย
ตากวั่งซั่งบุเรได้ เพื่อนด้วยช่วยนำฯ


(๓๐๖) ๏ ตามเกรี่ยงเลี่ยงเลี้ยวลัด ตัดทาง
หนาวไหน่ไม่มีรคาง ค่างเท้า
คงยาป่า ฝิ่นฝาง ฟุ้งรศ โอสถเอย
ต่างต่างย่างทรายเปล้า โปร่งฟ้าชาเกลือฯ


(๓๐๗) ๏ ปรายปรูปู่เจ้าเจด ตพังคี
ลักกระจั่นขันใชศรี แซ่ม้า
ใครเครือเดื่อดีหมี มื้อเหลกเดกเอย
เขามวกรวกรกฟ้า ฝิ่นต้นคนจามฯ


(๓๐๘) ๏ กทกรกกกกนากน้ำ ใจใคร
ราชดัตสลัดได ไข่เหน้า
พิษนาดพาดไฉน นากกภด กรดเอย
สอึกสอมซมเช้า ชิ่งช้าชาลีฯ


(๓๐๙) ๏ มหาสดำคำไก่ต้น ทนดี
หางตะเค่เนระภูศรี ซ่มกุ้ง
ชาเลือดเหมือดคนมี สมอภิเภก เอกเอย
ลมป่วนหวนหอมฟุ้ง เปลือกไม้ใบยาฯ


(๓๑๐) ๏ กำยานก้านกิ่งช้อย ย้อยยาง
คิดใคร่ได้สำอาง อบน้ำ
ยามไร้ไม่มีนาง เสน่หพี่ นี้เอย
สรี้นกลิ่นสรี้นศุขซ้ำ โศกเศร้าเช้าเยนฯ


(๓๑๑) ๏ ฉลูดโลดโกฎเก้าค่า ตาเสือ
มเดื่อดินขมิ้นเครือ ครอบฟ้า
กรั่นเกราเค่าเยนเหนือ หนอนตยากซากเอย
หวายตมอยข่อยคล้า ขลู่ขล้อสมอไทยฯ


(๓๑๒) ๏ หนามหันสันพร้าพัก แพวแดง
สหัศคุนสมุลแวง สวาดเอื้อง
สลอดเสลาเหล่ากระเจี้ยงแจง กำจัด อัดเอย
หนุ่มอยุดขุดครบเขรื้อง ห่อผ้าลว้าศพายฯ


(๓๑๓) ๏ เกรี่ยงนำตำแหน่งแหร้ แลหลาย
ทุบแหลกแตกเนื้อพราย พร่างพร้อย
เหมือนรู้ผู่เท่าทาย ถิ่นแร่ แม่เอย
ชมเล่นเยนบ่ายคล้อย คล่ำเนื้อเสือขะนองฯ


(๓๑๔) ๏ หวังปะพระปรอดรื้อ ดื้อเดิน
พลอยกวั่งสังบูเรเพลิน พลอดพร้อง
หลีกหนามข้ามโขดเขิน พนัศรื่น ครื้นเอย
ลำฦกนึกขนิด เสน่หเต้าเคล้าคลอฯ


(๓๑๕) ๏ ดงมเกลือเหลือดกล้ำ ดำเหลือ
เล่หม่อมย้อมมเกลือ กแจะให้
ใจหม่อมย่อมเหมือนเกลือ กลิ่นร่ำ ดำเอย
ดำเทือกเปลือกแก่นไสร้ ซิ่นต้นผลดำ


(๓๑๖) ๏ เดินดงวงหว่างเวิ้ง เซิงสูง
รื่นร่มชมฉมันฝูง ฝ่านเนื้อ
เนินไม้ใหญ่ยางยูง พยอมย่อม หอมเอย
ชุ่มชื่นกลืนกล้ำเกลือ กลิ่นเกลี้ยงเพียงสุคน


(๓๑๗) ๏ ค่ามป่งลงฮ่วงน้ำ ค่ำเยน
ปะแต่หมอต่อกเตน ตกกลิ้ง
หมอตายฝ่ายนกเปน ปล่อยโปรด โทษเอย
ย่ามพ่าพร้ากะทอทิ้ง ไท่เซ้ายาวนานฯ


(๓๑๘) ๏ สิ่งของต้องแต่งตั้ง บังสกุน
ปลงพระอศุภบุญ แบ่งให้
กรวดน้ำร่ำการุญ เกรียงกราบ ราบเอย
เถ้ากวั่งสังบุเรได้ ดาบหญ้ามตามประสงฯ


(๓๑๙) ๏ จากสภพลบค่ำคลุ้ม พุ่มพง
ป่าว่านย่านหย่อมดง แด่นลว้า
ตามเกรี่ยงเลี่ยงลัดลง แหล่งฮ่วยกวยแฮ
หักฮ่างค้างที่ถ้า ถิ่นน้ำลำธารฯ


(๓๒๐) ๏ เกรี่ยงสองกองกิ่งไม้ ใส่เพลิง
โพลงพลุ่งฟุ้งฟอนเซิง สว่างฟ้า
กวางปีบถีบป่ากเจิง กจัดถิ่น สิ้นแฮ
ดงว่านกำยานรย้า ระเยือกข้างหว่างเซาฯ


(๓๒๑) ๏ เหล่าเกรี่ยงเลี้ยงหนุ่มน้อย อ้อยแตง
มันเผือกเลือกจัดแจง จุดใต้
เดือนหนึ่งพึ่งรวงแสวง หวานฉ่ำ ล้ำเอย
เอมอิ่มยิ้มแย้มได้ เกรี่ยงด้วยช่วยรวังฯ


(๓๒๒) ๏ เหล่าลูกผูกฮ่างห้อย ย้อยโยน
ไกวเล่นเจรจาโขน ขับร้อง
ชักเชือกเยือกยวบโอน อ่อยสบัด กวัดเอย
กล่อมเห่เรไรซ้อง แซ่เหรื้อยเฉื่อยเสียงฯ


(๓๒๓) ๏ เกรี่ยงว่าป่าว่านร้าย ควายงัว
เสือบ่อกล้ามากลัว กลิ่นหว้าน
เข้าชิดพิศมืดมัว เมาซบ สลบแฮ
ต้องย่างค้างไฟร้าน รอดได้ไม่ตายฯ


(๓๒๔) ๏ เหมือนรู้ดูหว้านสว่าง กลางดง
เลื่อมลุกทุกที่ตรง เกิดต้น
ยืดยืดมืดสว่างวง ว่านชื่อ กระสือแฮ
คิดใครไปเที่ยวค้น ขุดบ้างกลางคืนฯ


(๓๒๕) ๏ เกรี่ยงห้ามยามหว้านลุก ถูกตาย
แก่อย่างไรไม่คลาย คลั่งคลุ้ม
จำอยุดสุดเสียดาย ดูอร่าม วามเอย
ริ่มห่างหว่างซอกซุ้ม ขสว่างหว้านด่านดงฯ


(๓๒๖) ๏ ดึกดื่นชื่นชุ่มไม้ ไพรพนม
พร่ำพร่ำน้ำค้างพรม พร่างฟ้า
กลิ่นว่านซ่านส่งลม กระหลบกรุ่น อุ่นเอย
ยิ่งมืดครืดสว่างกล้า กลิ่นกล้มคลุ้มเมาฯ


(๓๒๗) ๏ หากครูรู้แก้ว่าน ท่านสอน
เศกขะมิ่นกินจึ่งนอน นั่นได้
เกรี่ยงเมาเหล่าลูกถอน ให้ขะมิ่น กินแฮ
เมาส่างต่างกราบไหว้ ว่าขมิ้นกินหายฯ


(๓๒๘) ๏ ยามสามยามพิศหว้าน ซานซึม
เพลิงดับกรับเสียงกระหึม เห่าหื้อ
ว่านคนบ่นพึมพำ พูดค่างห้างแฮ
กบเขียดเอียดอึงอื้อ อึ่งร้องซ้องเสียงฯ


(๓๒๙) ๏ กาแกแต่แว่วแหว้ว เเจ้วเสียง
ไก่กุกลูกเจี๊ยบเรียง รอบห้าง
หนุ่มฟังนั่งมองเมียง หมายไก่ ใกล้แฮ
เกรี่ยงใส่ไฟค่างหล้าง ดับสิ้นกลิ่นยาฯ


(๓๓๐) ๏ เกรี่ยงชวนจวนสว่างหว้าน ซ่านเเสลง
ต่อแดดแผดแสงแขง ค่อยเศร้า
อยู่ชิดพิศร้ายแรง ร้อนทั่ว ตัวเอย
หนีออกนอกดงเข้า เขดลว้าพาเดินฯ


(๓๓๑) ๏ สามยามตามเกรี่ยงอย้อง มองทาง
เดือนแหว่งแสงรางราง เรี่ยไม้
เกรี่ยงเราเป่าหลอดพลาง เพลิงชุด จุดแฮ
ออกจากปากดงได้ แด่นลหว้าป่าสูงฯ


(๓๓๒) ๏ หึ่งหึ่งพึ่งเรียกร้อง ก้องกหึม
หมีบ่นด้นดุ่มพึม พุ่มไม้
เย็นเยียบเงียบเงางึม สงบสงัด สัดเอย
ฟ้าพร่ำน้ำค้างไห้ รเยือกเนื้อเหลือหนาวฯ


(๓๓๓) ๏ จวนรุ่งฟุ้งดอกไม้ ไพรพนม
รื่นรื่นชื่นอารม เรื่อยริ้ว
ร่วงหล่นบนเผ้าผม ผอยถูก ตมูกเอย
ลมผ่าวหนาวดอกงิ้ว ง่วงเศร้าเหงาหงิมฯ


(๓๓๔) ๏ หนาวลมห่มผ้าแก้ แม่เอย
หนาวที่ใจใครเลย จแก้
ยามรุ่นอุ่นอกเคย เคียงคู่ อยู่แฮ
ยามเท่าเปล่าทรวงแท้ เที่ยวค้างกลางดงฯ


(๓๓๕) ๏ เกรี่ยงเราเป่าหลอดโหล้ง โหว่งดัง
สำเหนี่ยกเรียกรว้าฟัง ฝ่ายบ้าน
ข้างเวาเป่ารับระวัง วิเวกโร่ โหร่แฮ
รู้ชัดลัดเข้าหญ้าน หย่อมลว้ามาคอย


(๓๓๖) ๏ เกรี่ยงปะละว้ารับ นับถือ
พาเค่าเย่าเรืองครื พี่น้อง
โหมไฟใส่ฟืนฮือ ให้นั่ง อังเอย
เช้าเพื่อนเกลื่อนมาพร้อง พรักพร้อมล้อมสลอนฯ


(๓๓๗) ๏ ลว้าเถือเนื้อสดให้ ไส่กระบุง
หนุ่มแต่งแกงเผ็ดปรุง เปราะพร้อม
กินเค่าเหล่าเกรี่ยงมุม มองปาก อยากแฮ
เสจสับกับเกรี่ยงล้อม กทะลิ้มชิมแกง


(๓๓๘) ๏ ร้องอร่อยพลอยซดกลุ้ม หนุ่มสาว
แม่ลูกมูกฟูมยาว ยืดย้อย
มดเนื้อเหื่อโทรมพราว พร่ำอร่อย น้อยฤา
กอดหนุ่มอุ้มหนูน้อย น่าได้ไว้ผัวฯ


(๓๓๙) ๏ วานแกงแต่งพรีกพร้อม ล้อมดู
ครกใหญ่ใส่โขลกครู ครอบให้
กวางป่าฮ่ากระทะหุ ห้อมซด หมดแฮ
อิ่มอกยกมือไหว้ แวดล้อมพร้อมเพรียงฯ


(๓๔๐) ๏ สาวสาวเหล่าลูกลว้า น่าชม
ยิ้มย่องผ่องผิวผม ผูกเกล้า
คิ้วตาน่านวลสม เสมอฮ่ามงามเอย
แค่งทู่หูเจาะเจ้า จึ่งต้องหมองศรีฯ


(๓๔๑) ๏ น้อยน้อยพลอยว่าลว้า หน้านวล
ยุทหยอกนอกเสื้อสวน แซ่ซ้อง
สาวสาวเหล่าลว้ากวน กอดหนุ่ม อุ้มเอย
ปล่ำเล่นเช่นพี่น้อง นึกหน้าปรานีฯ


(๓๔๒) ๏ ตาลวดยวดยิ่งลว้า ป่าเซียว
เคยปะพระเจดีเดียว เที่ยวด้วย
ลาสาวเหล่าลว้าเกรียว กรูส่ง ดงเอย
เกรี่ยงเลือกเผือกมันกล้อวย แบกบ้างทางไกลฯ


(๓๔๓) ๏ ลวดลว้าพาเลี้ยวลัด ตัดทาง
ไผ่ป่าหนาหนามกลาง กลับเกลี้ยง
พ้นไผ่ไม้ยูงยาง ยามหล่น ผลเอย
ลูกร่อนว่อนเวียรเหลี้ยง หลีกต้นหล่นไกลฯ


(๓๔๔) ๏ ลูกยางอย่างลูกน้อย ถ่อยสถุน
ไม่รักศักศรีกระกุน เก่งก้อ
ครูสอนห่อนเหนคุน คิดออก นอกเอย
ปลื้นปลอกหลอกหลอนเพ้อ เล่ต้นผลยาง


(๓๔๕) ๏ เยนชื่นรื่นร่มไม้ ไพรรหง
เปนป่ากฤศนาลง สลับไม้
โกร๋นเกราะเผาะผุะผง ผุยล่อน กร่อนเอย
กฤศนาว่าครืไสร้ พุะไม้ใหญ่พยูงฯ


(๓๔๖) ๏ ขึ้นเนินเดินใกล้ชิด กฤศนา
หอมรื่นชื่นนาสา สูดซ้ำ
สมมุดดุจดังทา แป้งกแจะ และเอย
ใครไม่ได้ให้น้ำ กุหลาบกุหล้อยน้อยใจฯ


(๓๔๗) ๏ ซาดขะมิ่นสริ้นแม่เลี้ยง ลูกเอย
สารภีพ่อเคย ขัดเนื้อ
บุญนากยากไร้เชย เช่นกลิ่น ขมิ้นเอย
ถึงไม่เหลืองเรืองเหรื้อ ร่ำง้อซอหญิงฯ


(๓๔๘) ๏ หนุ่มหนูรู้อบผ้า หาหอม
ดอกไม้ไส่ห่อสนอม แนบไว้
ซาดแป้งแต่งตัวมอม มีดอก ไม้เอย
ต่างฝูกลูกนอนได้ นุ่มเนื้อเจือหอมฯ


(๓๔๙) ๏ อกเอยเคยขู้พลอด ฉอดเสียง
ตกเถื่อนเพื่อนกับเกรี่ยง รว้า
ยามมีที่รักเคียง ค่างค่าน ฉออนเอย
ยามยากบากเบือนหน้า นึกน้องสยองแสยงฯ


(๓๕๐) ๏ ทางร่มลมรื่นเหรื้อย เชื่อยโชย
หอมสุกกรมยมโดย ดอกไม้
ผิละพวงร่วงกลิ่นโรย รริกร่อน ว่อนเอย
ตูมตาดกลาดหล่นใกล้ เกลื่อนข้างทางเดินฯ
no image
  • Blogger Comments
  • Facebook Comments

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

Top