Latest News

Tuesday, October 2, 2012

อิเหนา : อิเหนาเข้าเมืองหมันหยา (๑๔)


อิเหนาเข้าเมืองหมันหยา


     ๏ เมื่อนั้น
ระตูผู้ผ่านหมันหยา
ได้ฟังจึงสั่งเสนา
จงไปรับนัดดามาธานี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
 
     ๏ บัดนั้น   
ตำมะหงงรับสั่งใส่เกศี
ออกมาเกณฑ์กันทันที
เร่งรัดสัสดีเอาผู้คน
บ้างเบิกเสื้อเบิกหมวกอลหม่าน
ทั่วทุกพนักงานสับสน
พรั่งพร้อมโยธีรี้พล
เสนานำพหลเกณฑ์แห่ไป ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
     ๏ ครั้นถึงจึงถวายอัญชลี
องค์ระเด่นมนตรีศรีใส
บังคมทูลแถลงให้แจ้งใจ
ระตูให้มารับเข้าบุรี ฯ*
ฯ ๒ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีเรืองศรี
ได้ฟังตำมะหงงเสนี
จึ่งตรัสสั่งทั้งสี่พี่เลี้ยง
วันนี้เราจะเข้าพระนคร
อย่าให้ทันแดดร้อนก่อนเที่ยง
จงจัดทหารแห่เป็นคู่เคียง
ให้พร้อมเพรียงแต่ในบัดนี้ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     บัดนั้น
พระพี่เลี้ยงรับสั่งใส่เกศี
มาจัดพลจัดพวกพาชี
ทหารแห่ให้ขี่คู่กัน
แล้วนุ่งห่มสมตัวตกแต่ง
ตามตำแหน่งเสนากิดาหยัน
ปลายเชือกให้ชาวหมันหยานั้น
จัดกันเดินหน้านำพล
เหล่ากำนัลเชิญพระแสงสำหรับตาม
ล้วนงามงามต้นเหลี่ยมหลังถนน
เข้าขบวนถ้วนทั่วทุกตัวคน
แล้วผูกม้าต้นเตรียมไว้
สารวัดจัดตรวจเป็นหมวดกอง
ทวนทองธงทิวปลิวไสว
คอยเสด็จยาตราคลาไคล
คับคั่งทั้งในแดนดง ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา
     เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีสูงส่ง
เสด็จจากแท่นสุวรรณบรรจง
มาสระสรงวารินกลิ่นเกลา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
     ลงสรงสุหร่าย

     ทรงสุคนธ์ปนทองชมพูนุท
นวลละอองผ่องผุดดังหล่อเหลา
พระฉายตั้งคันฉ่องส่องเงา
สอดใส่สนับเพลาเพราผจง
ทรงภูษายกแย่งอย่างนอก
พื้นม่วงดวงดอกตันหยง
โหมดเทศริ้วทองฉลององค์
กระสันทรงเจียระบาดคาดทับ
ปั้นเหน่งเพชรลงยาราชาวดี
ทับทรวงดวงมณีสีสลับ
เฟื่องห้อยสร้อยสังวาลบานพับ
ทองกรแก้วประดับดวงจินดา
สอดใส่ธำมรงค์เรือนครุฑ
ทรงมงกุฎห้อยพวงบุปผา
เหน็บกริชฤทธิไกรแล้วไคลคลา
เสด็จมาขึ้นทรงสินธพ ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ
     โทน

     ม้าเอยม้าต้น
สามารถอาจผจญเจนจบ
เคล่าคล่องทีทวนกระบวนรบ
ไม่หลีกหลบเลื่อมตื่นปืนประทัด
เผ่าโผนโจนฝ่ามากลางพล
ผู้คนเดินกีดก็ดีดกัด
ม้ากิดาหยันตามเยียดยัด
ม้าแห่แออัดรัถยา
ม้าระเด่นดาหยนเดินรอง
ม้าพี่เลี้ยงเคียงสองซ้ายขวา
พนักงานกั้นกลดรจนา
บังแสงสุริยาตรัสไตร
อภิรุมชุมสายสีประเทือง
ธงเทียวเขียวเหลืองล้วนใหม่ใหม่
สนั่นเสียงฆ้องกลองก้องไพร
รีบรนพลไกรเข้าในเมือง ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ เชิด
     ร่าย

     บัดนั้น
หญิงชายระบือลือเลื่อง
มาคอยภูวไนยนองเนือง
นั่งเนื่องแน่นถนนไปจนวัง
บ้างกลัวต่ำสูงจูงลูกหลาน
ลงจากร้านขายผ้าหน้าถัง
บ้างลดไม้ค้ำฝาหน้ากระชัง
มาแทรกเสียดเบียดบังนั่งปน
ที่หญิงปากกล้าก็ด่าทอ
เพิดพ้อผลักไสพิไรบ่น
ปะชายโฉงเฉงข่มเหงคน
ปากลนปะเตะเล่นก็เป็นไร
ที่ทางมึงได้ที่ไหนมา
จะนิ่งดูแต่ตาก็ไม่ได้
ขึ้นเสียงเถียงทะเลาะกันอึงไป
ฮึดฮัดขัดใจเต็มที
ที่เป็นผู้ใหญ่ก็ห้ามปราม
ข้าขอความเอ็นดูอย่าจู้จี้
มิใช่คนชั่วช้าหน้าดีดี
ไม่พอที่จะโมโหโกรธา
ครั้นได้เห็นองค์พระทรงธรรม์ 
งามดังอสัญแดหวา*
พิศวงงงไปในพริบตา*
ทั่วทั้งไพร่ฟ้าประชากร
หญิงชายชาวเมืองก็หมอบกราน
ทุกบ้านบังคมอยู่สลอน
บ้างร้องอำนวยอวยพร
ราษฎรเกษมเปรมปรีดิ์ ฯ*
ฯ ๑๔ คำ ฯ
     บัดนั้น
ทหารแห่คับคั่งทั้งวิถี
เห็นผู้หญิงสาวสาวชาวบุรี
หน้าไหนใครดีก็แลดู
บ้างกระซิบบุ้ยปากบอกกัน
รูปร่างนางคนนั้นขยันอยู่
ที่หนุ่มหนุ่มนักเลงเหล่าเจ้าชู้
เอาปูนพลูซัดหยอกแล้วยิ้มพราย
บ้างชักม้าพยศย่างขวางถนน
สะดุดคนเหยียบของเขากองขาย
บ้างโผนผกหกมุ่นวุ่นวาย
ตื่นตะกายเกะกะเข้าระรั้ว
พวกผู้หญิงวิ่งวุ่นอลวน
ลางคนผ้าห่อมหายขายหน้าผัว
บ้างแฝงฝาหน้าถังบังตัว
บ้างหัวบ้างโกรธโกรธา ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
พระสุริย์วงศ์องค์อสัญแดหวา
เร่งขับมโนมัยไคลคลา 
มรคาคับคั่งผู้คน
ครั้นถึงทิมริมที่ทวารวัง
เสด็จลงจากหลังม้าต้น
จึงให้หยุดโยธีรี้พล
ชวนระเด่นดาหยนยาตรา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     เข้าในพระโรงรัตน์รูจี
เห็นเสนีเฝ้าแหนแน่นหนา
จึงถวายบังคมคัลวันทา
พระผู้ผ่านสวรรยาธานี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
ระตูหมันหยาเรืองศรี
เห็นอิเหนาเข้ามาอัญชลี  
จึงมีมธุรสพจมาน
ปราศรัยไต่ถามพระนัดดา
ซึ่งเจ้ามาท่าทางทุรัศสถาน
เดินโดยอรัญกันดาร 
โยธาทวยหาญยังพร้อมมูล
พระชนกชนนีทั้งสอง
ครอบครองโภไคยไอศูรย์
เสวยรมย์สมบัติบริบูรณ์
ทั้งประยูรสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์
อันฝูงไพร่ฟ้าประชาชน
ทั้งเสนาสามนต์พลขันธ์
อยู่เย็นเป็นสุขพร้อมกัน
เหมือนแต่ก่อนกระนั้นหรือ
ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา
     เมื่อนั้น 
อิเหนาอภิวันท์หรรษา
ทูลว่าแต่ยกพลมา
เดินโดยมรคาสิบห้าวัน
อันพวกพหลพลไกร
ไม่มีเหตุเภทภัยในไพรสัณฑ์
สมเด็จพระบิตุรงค์ทรงธรรม์
ก็เสวยไอศวรรย์เปรมปรีดิ์
ถ้วนหน้าผาสุกไม่ทุกข์ร้อน
ไพร่ฟ้าประชากรเกษมศรี
ปราศจากอันตรายราคี
มิได้มีภัยพานประการใด
แต่องค์พระชนนีนั้น
ทรงครรภ์แก่เกือบไม่มาได้
ให้ข้าคุ้มของสองเวียงชัย
มาปลงศพท่านไทยอัยกี
แม้นพระเมรุเกณฑ์ทำไม่ทันการ
จะแจ้งสารไปให้ทราบบทศรี
พระเพิ่มเติมพลมนตรี
ทั้งสองบุรีมาทำการ ฯ
ฯ ๑๐ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
ท้าวหมันหยายิ้มย่องสนองสาร
ซึ่งสององค์บรรจงไทยทาน
ให้หลานมาช่วยถึงพารา
พระคุณนั้นหาที่สุดไม่
จะเลื่องชื่อลือไปทุกทิศา
อันการศพสมเด็จพระมารดา
ก็จัดแจงทำมาไม่เงือดงด
แต่ยังหาได้ตั้งพระเมรุไม่
ตัวไม้ปรับปรุงไว้พร้อมหมด
หลานมาน้าสมมโนรถ
จะรีบกำหนดให้แน่ลง
ว่าพลางทางมีบัญชา
ตรัสสั่งเสนาตำมะหงง*
จงแต่งที่ประเสบันอากง
ให้องค์อิเหนากุเราปัน ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
     บัดนั้น
ตำมะหงงรับสั่งแล้วผายผัน
มาจัดแจงแต่งที่ประเสบัน
ช่วยกันอุตลุดทั้งไพร่นาย
บ้างกั้นฉากแพรลับแลตั้ง
กรมวังวงพระสูตรรูดสาย
จัดแจงแต่งตำหนักยักย้าย
เพดานดาดรายดารากร
บ้างตกแต่งพระยี่ภู่ปูอาสน์
ชาวที่ทอดราชบรรจถรณ์
ที่เสวยที่สรงสาคร
เสร็จตามภูธรบัญชาการฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
     เมื่อนั้น  
พระองค์ผู้ดำรงราชฐาน
จึงตรัสสั่งพฤฒาโหราจารย์
ให้หาฤกษ์ตั้งการกำหนดวัน ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     บัดนั้น
ขุนโหรผู้ใหญ่คนขยัน
คลี่ตำราขับไล่ลัคน์จันทร์
ดูโฉลกโชคชั้นทันที
จึงนบนิ้วประนมบังคมทูล
นเรนทร์สูรจงทราบบทศรี
กำหนดเชิญพระศพฤกษ์ดี
เดือนสี่สิบค่ำวันอังคาร ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา
     เมื่อนั้น   
ระตูหมันหยาได้ฟังสาร
จึงสั่งเสนีพนักงาน
จงจัดการพระเมรุเกณฑ์กัน
นายมุลขุนหมื่นทุกหมู่หมวด
สมทบสี่ตำรวจกวดขัน
เครื่องประดับพระศพครบครัน
รีบทำให้ทันกำหนดไว้
สั่งพลางทางกล่าววาที
ชวนระเด่นมนตรีศรีใส
ทั้งระเด่นดาหยนคลาไคล
เสด็จไปไหว้ศพพระอัยกี ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีเรืองศรี
จึงถวายอภิวันท์อัญชลี
ศพพระอัยกีด้วยปรีดา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
ระตูผู้ผ่านหมันหยา*
จึงมีพระราชบัญชา
สั่งกำนัลกัลยาฉับพลัน
จงไปเชิญองค์ประไหมสุหรี
กับบุตรีขึ้นมาขมีขมัน
บอกว่าอิเหนากุเรปัน
มาอภิวันท์พระศพอยู่บนนี้ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     บัดนั้น
นางกำนัลประณตบทศรี
รับสั่งพระผู้ทรงธรณี
แล้วรีบจรลีออกมา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ ชุบ
     ครั้นถึงจึงถวายบังคมไหว้
องค์ประไหมสุหรีเสนหา
ทูลว่าอิเหนานัดดา
เสด็จมาอยู่ที่พระศพนั้น
บัดนี้พระผู้ผ่านเวียงชัย
ให้เชิญสองอรทัยผายผัน
ขึ้นไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์
ยังสุวรรณปราสาทรูจี ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     เมื่อนั้น
โฉมยงค์องค์ประไหมสุหรี
จึงชวนจินตะหราวาตี
เข้าที่สรงสนานสำราญกาย ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     ชมตลาด

     สองกษัตริย์ขัดสีฉวีวรรณ
นางกำนัลตั้งสุคนธ์คอยถวาย*
ทรงอุหรับจับกลิ่นอบอาย
น้ำกุหลาบละลายกรายกรีดนิ้ว
กวดเกล้าเปลาปลายพระฉายส่อง
ผัดพักตร์นวลละอองผ่องผิว
ทรงภูษายักแย่งแพลงพลิ้ว
ห่มริ้วทองทับซับใน
สร้อยสะอิ้งสังวาลบานพับ
ตามประดับมรกตสดใส
ทองกรแก้วมณีเจียระไน
สอดใส่เนาวรัตน์ธำมรงค์
ทรงมงกุฎสำหรับพระธิดา
ห้อยอุบะบุหงาตันหยง*
พรั่งพร้อมสุรางค์นางอนงค์
สององค์เสด็จไคลคลา ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ เพลงช้า
     ร่าย

     ครั้นถึงจึงบังคมบรมศพ
แล้วนอบนบอภิวันท์ท้าวหมันหยา
พลางทอดพระเนตรแลมา
ดูพระนัดดาธิบดี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
no image
  • Blogger Comments
  • Facebook Comments

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

Top